เทคนิคการออมเงิน: ใช้เงินกู้ ให้ถูกวัตถุประสงค์

 


เทคนิคการออมเงิน: ใช้เงินกู้ ให้ถูกวัตถุประสงค์

ปัญหาหนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในเรื่องการจัดการทางการเงินของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ หรือผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจมาแล้ว คือเรื่องของการใช้เงินกู้ผิดประเภทผิดวัตถุประสงค์
ประเภทของเงินกู้สามารถแบ่งออกเป็น

เงินกู้ระยะสั้น  (Short-term Loans) เงินกู้ระยะกลาง (Mid-term Loans) และเงินกู้ระยะยาว (Long-term Loans)

เงินกู้ระยะสั้น หมายถึง เงินกี่มีระยะเวลาการกู้เงินและการชำระคืนน้อยกว่า 1 ปี  เงินกู้ระยะกลางจะมีระยะเวลาการกู้ตั้งแต่ 1-3 ปี  ส่วนเงินกู้ระยะยาวจะประมาณตั้งแต่ 3-5 ปีขึ้นไป

วัตถุประสงค์ ของเงินกู้ระยะสั้นจะใช้เพื่อการลงทุนระยะสั้น เช่นค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงานการผลิต ค่าใช้จ่ายในการผลิต ค่าใช้จ่ายบุคลากร รวมถึงเงินทุนหมุนเวียนอื่น ๆ ส่วนเงินกู้ระยะกลางหรือระยะยาวก็จะใช้เพื่อการลงทุนของธุรกิจในระยะกลางหรือระยะยาว เช่นที่ดิน อาคาร เครื่องจักร อุปกรณ์ หรือการลงทุนในสินทรัพย์ของธุรกิจที่มีรอบระยะเวลาการสร้างรายได้นานกว่า 1 ปีขึ้นไป

ปัญหาส่วนใหญ่คือ ผู้ประกอบการรายใหม่มักใช้เงินกู้ผิดวัตถุประสงค์คือ ใช้เงินกู้ระยะสั้นเพื่อการลงทุนระยะยาว หรือใช้เงินกู้ระยะยาวเพื่อการลงทุนในระยะสั้น

ตัวอย่างเช่น นำเงินกู้ระยะสั้นในส่วนที่เป็นวงเงินเบิกเกินบัญชี หรือที่เรียกกันติดปากว่า O/D (Overdraft) มาลงทุนกับโครงการระยะยาวซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายกิจการ ปัญหาที่จะเกิดขึ้นคือการขาดเงินทุนหมุนเวียนในการผลิตสินค้า แม้ว่าในช่วงแรกจะสามารถดึงเงินสดให้คงเหลือในธุรกิจ หรือใช้การยืมเงินจากกรรมการหรือผู้ถือหุ้นมาเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตได้ในช่วงแรก แต่ในระยะยาวแล้วธุรกิจก็จะประสบปัญหาในที่สุด มีการใช้วงเงินกู้ระยะสั้น O/D  เต็มจำนวน “ติดตัวแดง” อยู่ตลอดเวลา โดยไม่สามารถนำรายได้จากการขายสินค้ามาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นดังกล่าวได้

ดังนั้น ธุรกิจหรือตัวผู้ประกอบการควรจะต้องมีวินัยทางการเงินในการใช้จ่ายให้ถูกประเภท และควรมีการวางแผนทางการเงินอย่างถูกต้องตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นธุรกิจ โดยต้องกำหนดและคาดคะเนส่วนของการลงทุนและกำหนดการใช้วงเงินกู้ และการชำระคืนให้มีรอบระยะเวลาและวงเงินที่สัมพันธ์กัน

    Choose :
  • OR
  • To comment