การวางแผนการเงินสำหรับคนโสด

 


การวางแผนการเงินสำหรับคนโสด

คนหลายคนมองว่าการทำงานมีเงินเดือน คือความมั่นคง ยิ่งเงินเดือนมาก ความมั่นคงยิ่งมากขึ้นตามแต่ในความเป็นจริงแล้ว เงินเดือนคือค่าจ้าง นั้นคือ ค่าแรงที่คนที่รักเงินเดือนได้ลงแรงทำไป


แต่ถ้าเราย้อนนึกไปถึงวันที่เราขาดซึ่งแรงที่จะทำงานได้ต่อไปเงินเดือนจากการทำ งานก็จะไม่มีเช่นกัน จึงทำให้หลายคนเกิดคำถามว่าสุดท้ายแล้วความมั่นคงที่แท้จริงคืออะไร ใช่เพียงแค่เงินเดือนเท่านั้นหรือ

ชีวิตคนทำงานประจำไม่ว่าจะอยู่ระดับไหน ลูกน้อง หัวหน้า ผู้จัดการ ล้วนแล้วแต่เป็นลูกจ้างทั้งหมดทั้งสิ้น ทำงานได้ก็มีเงินเดือน ทำงานไม่ไหว เจ็บป่วย แก่ตัวลงไปก็ต้องถูกปลดออกจากงาน ตกอยู่ในภาวะขาดรายได้ และถ้าวันนั้นมาถึง เราเข้าจริง ๆ คุณคิดว่าคุณมีหลักความมั่นคงให้ได้ยึดจับหรือยัง

แผนการเงินของคนโสดไม่แตกต่างกับแผนการเงินของผู้ที่แต่งงานแล้วแต่ไม่มีบุตร เพราะสามารถตัดเรื่องการวางแผนเพื่อการศึกษาของบุตรไปได้ คงเหลือเฉพาะการวางแผนเพื่อการเกษียณอายุงาน เพราะต้องดูแลตัวเอง และอาจจะต้องวางแผนเพื่อเลี้ยงดูบุพการีด้วย

คนโสดในวัยสามสิบเศษ หากไม่คิดว่าจะมีครอบครัวก็สามารถวางแผนซื้อบ้านได้ ในภายหลังหากมีครอบครัวก็ไม่ต้องหาซื้ออีก แค่ถ้าหากไม่มีครอบครัวและมาเริ่มซื้อตอนอายุ 40 หรือ 45 ปี อาจจะช้าไปหน่อยค่ะ ผ่อนไม่ไหว ประมาณเอาว่าเริ่มวางแผนซื้อบ้านตั้งแต่อายุ 35 ปี ก็น่าจะดีค่ะ

นอกจากนั้น ยังต้องวางแผนเรื่องการดูแลสุขภาพด้วย ทำร่างกายให้แข็งแรง และเลือกดูแผนประกันสุขภาพที่เหมาะสม ในกรณีที่ที่ทำงานไม่ได้ครอบคลุมการประกันสุขภาพให้ เพราะข้อเสียเปรียบอย่างหนึ่งของคนโสดคือ เวลาเจ็บป่วยไม่สามารถทำงานได้ จะไม่มีรายได้จากคู่สมรสมาช่วย ทุกอย่างจึงต้องอาศัยตนเองทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าท่านจะมีญาติพี่น้องคอยดูแลอีกชั้นหนึ่ง

การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับคนโสดค่ะ เพราะทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดในชีวิตของท่านก็คือตัวของท่าน และถ้าท่านไม่อยากให้ตัวท่านเองเป็นภาระของตัวเองในยามชราภาพ ท่านต้องดูแลสุขภาพให้ดีเลิศ

สุขภาพจิตก็สำคัญค่ะ เนื่องจากท่านไม่มีลูกให้ดุ ไม่มีคู่สมรสให้ต่อว่า ท่านอาจจะสะสมความเครียดโดยไม่รู้ตัว ต้องมีการระบายความเครียด อาจจะด้วยการออกกำลังกาย ด้วยการทำสมาธิ ด้วยการศึกษาศาสนา อ่านหนังสือธรรมะ ฯลฯ

การวางแผนประกันสุขภาพ เป็นสิ่งที่ควรจะทำค่ะ และสำคัญกว่าแผนประกันชีวิต โดยเฉพาะท่านที่ทำงานอิสระหรือหน่วยงานที่สังกัดไม่ได้ให้การดูแลในเรื่อง สุขภาพ แต่สำหรับท่านที่ต้องเลี้ยงดูบุพการี ท่านควรจะต้องวางแผนประกันชีวิต เช่นเดียวกับผู้มีครอบครัวและต้องเลี้ยงดูคู่สมรสและบุตรค่ะ

หากท่านเป็นคนโสด ท่านก็วางแผนแบบคู่สมรสใหม่กับแบบวัยก่อนเกษียณ คือ เมื่อ ยังอายุน้อยก็เน้นการวางแผนการใช้จ่าย และแผนการลงทุน พออายุเพิ่มขึ้นก็เน้นการวางแผนเกษียณเพิ่มเติม ถ้าท่านมีภาระเลี้ยงดูผู้อื่น ท่านก็ต้องวางแผนประกันภัย (ประกันชีวิต) เพิ่มสำหรับแผนการลงทุนนั้น เป็นแผนที่ได้ใช้ตลอดช่วงอายุค่ะ จึงมีความสำคัญ และเป็นส่วนที่ยากและท้าทายความสามารถมากที่สุด

ในส่วนนี้ขอแนะนำให้ปรึกษากับผู้รู้ เพราะหากวางแผนลงทุนไม่ดี เงินที่เก็บมาทั้งชีวิต อาจลดลงไปทำให้ไม่สามารถเกษียณอายุงานได้เร็วขึ้นตามที่เคยวางแผนเอาไว้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่การลงทุนมีความผันผวนมาก ท่านต้องวางแผนและลงมือปฏิบัติด้วยความระมัดระวังค่ะ

การวางแผนการเงินเป็นเรื่องที่ไม่ยากใช่ไหมคะ ท่านจะเห็นว่าความสำคัญของการ วางแผนการเงินในแต่ละช่วงชีวิต จะเน้นประเภทของแผนที่แตกต่างกัน ตอนยังไม่มีเงินออมก็ต้องออมเงินก่อน เมื่อมีเงินพอสมควรก็ต้องลงทุน เมื่อมีทรัพย์สินมากพอสมควรก็ต้องทำประกันภัย เพื่อคุ้มครองชีวิตและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สิน และเมื่อมีโอกาส ต้องวางแผนเพื่อการเกษียณอายุงานที่สุขสบาย ทั้งนี้และทั้งนั้น ในทุกช่วงอายุต้องดูแลสุขภาพให้ดีค่ะ* *

กล่าวกันอยู่เสมอว่า แผนการเงินของแต่ละคนก็จะแตกต่างกัน นอกจากจะแตกต่างกันตามช่วงเวลาของชีวิตแล้ว ยังแตกต่างกันเพราะรสนิยม ความชอบ ค่านิยมในการใช้ชีวิต ความประทับใจ และความเชื่อส่วนบุคคล ความผูกพันและผลกระทบต่อจิตใจ วัฒนธรรมของแต่ละสังคม ฯลฯ

ดังนั้นเวลาวางแผนการเงิน ผู้รับการวางแผนควรจะต้องบอกให้ผู้วางแผนทราบ เพื่อที่ผู้วางแผนจะต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ประกอบด้วยในการวางแผนการเงิน
เงินไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด การบรรลุเป้าหมายในชีวิตต่างหากที่สำคัญกว่า แต่เนื่องจากสังคมเราเป็นสังคมที่ใช้เงินตราเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน สินค้าและบริการ เราจึงต้องวางแผนโดยใช้เงินและตัวเลขเป็นจุดเริ่มต้นในการวางแผน ในบางกรณีท่านอาจจะสามารถบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้ โดยไม่ต้องใช้เงิน เช่น บางท่านอาจจะมีเป้าหมายชีวิตที่จะแสวงหาธรรมะ ท่านก็อาจจะบวชเป็นพระหรือชี หรือนักบวชในศาสนาของท่าน หรือในบางกรณีท่านก็สามารถวางแผนการปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหารของท่านได้เอง ท่านก็สามารถลดจำนวนเงินที่ต้องการใช้ในการดำรงชีพได้ เป็นต้น

เพราะฉะนั้น หากท่านคำนวณเงินออมเพื่อการเกษียณแล้วอย่างไรก็ไม่สามารถเก็บให้ครบได้ ท่านอาจจะเริ่มมองหาที่ว่างข้างบ้านเพื่อเพาะปลูกผักและพืชสวนครัว หรือเริ่มปรุงอาหารรับประทานเองที่บ้าน แทนที่จะออกไปรับประทานนอกบ้านทุกวันขอให้ท่านผู้อ่านทุกคนสามารถวางแผน ชีวิต วางแผนการเงิน ได้อย่างดี หรือได้ทำตามความฝันของท่านอย่างราบรื่น และขอให้ท่านมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายตามควรแก่อัตภาพ

    Choose :
  • OR
  • To comment