เทคนิคกลยุทธ์การลงทุนในกองทุนรวม

 

เริ่มตั้งแต่ต้นปีมานี้หลายท่านคงได้เห็นแล้วว่าตลาดหุ้นบ้านเราหรือ SET INDEX ผันผวนอย่างมาก เนื่องจากความไม่แน่นอนของหลายๆ ปัจจัยทั้งการเมือง เงินเฟ้อ   รวมถึงปัญหาชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้เลย เหมือนกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงอยู่มากมาย แต่ปัญหาจากความไม่แน่นอนเหล่านี้ พอจะหาทางบรรเทาลงได้ด้วยการใช้กลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสม โดยเฉพาะกับกองทุนรวม ลองมาดูกันครับว่ากลยุทธ์การลงทุนในกองทุนรวมที่คุณสามารถทำได้มีอะไรบ้าง

Dollar-Cost Averaging   
       
เป็นกลยุทธ์ในการลงทุนอย่างหนึ่งเพื่อซื้อหน่วยลงทุน โดยลงทุนอย่างสม่ำเสมอด้วยจำนวนเงินที่เท่าๆกัน  ในช่วงเวลาที่เท่ากัน ต้นทุนการลงทุนที่ได้รับอาจจะสูงหรือต่ำก็ได้ ขึ้นกับว่าลงทุนในภาวะที่ตลาดผันผวนหรือไม่ Dollar-Cost  Averaging จะเป็นวิธีที่ดีและง่าย ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากเวลาที่ตลาดปรับตัวสูง หรือใช้เงินลงทุนน้อยเกินไปเวลาที่ตลาดปรับตัวลงต่ำ นักลงทุนจะได้ประโยชน์มากถ้าเริ่มต้นซื้อกองทุนในเวลาที่ตลาดปรับตัวลงอย่างรุนแรง (crash) และถึงจุดต่ำสุด (low downside risk) อันเนื่องจาก ปัจจัยพื้นฐาน นอกจากนี้ วิธี Dollar-Cost Average เป็นวิธีการที่จะเกี่ยวข้องกับจิตวิทยาการลงทุนด้วย ถ้าหากลงทุนแล้วตลาดปรับตัวลดลงความรู้สึกของนักลงทุนก็จะดี เพราะไม่ได้ลงทุนทั้งหมดในครั้งเดียว และยังมีโอกาสซื้อเพิ่มได้อีกในราคาที่ต่ำลง แต่ถ้าตลาดปรับตัวสูงขึ้น ก็ยังคงรู้สึกดีเพราะได้กำไรจากมูลค่าเพิ่มจากการเพิ่มขึ้นของราคาหน่วยลงทุนปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม วิธี  Dollar-Cost  Average ไม่สามารถบอกได้แน่นนอนว่าจะได้กำไรจากมูลค่าเพิ่ม หรือป้องกันการขาดทุนในเวลาที่ตลาดปรับตัวลง

Share Cost Averaging

เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่กำหนดให้ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมในจำนวนหน่วยที่เท่ากันหรือใกล้เคียงกันในช่วงเวลาต่างๆ (ที่เท่าๆกัน) โดยไม่สนใจเรื่องมูลค่าเงินลงทุนโดยรวมในการลงทุนแต่ละครั้ง เช่น นาย ก ตั้งเป้าหมายซื้อหน่วยลงทุนทุกเดือน เดือนละ 100 หน่วย ดังนั้น หากราคาของหน่วยลงทุนอยู่ที่ 10 บาทในเดือนแรก และ 12 บาท ในเดือนถัดมา นาย ก ต้องใช้เงินลงทุน 1,000 บาท ในเดือนแรก และ 1,200 บาท ในเดือนที่สอง กลยุทธ์  Share Cost Averaging นี้เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถเพิ่มเงินลงทุนในจังหวะที่ราคาหน่วยลงทุนปรับตัวสูงขึ้นเพื่อให้ได้หน่วยลงทุนตามที่กำหนดไว้  อย่างไรก็ตาม การลงทุนโดยใช้กลยุทธ์นี้จะเป็นการสะสมหน่วยลงทุนอย่างสม่ำเสมอแม้ว่าราคาของหน่วยลงทุนจะปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มีโอกาสที่ต้นทุนของหน่วยลงทุนจะมีแนวโน้มสูงกว่าต้นทุนหน่วยลงทุนที่ใช้วิธี Dollar-Cost  Averaging

Market Timing

Market Timing เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนนำมาใช้เพื่อหาเวลาที่เหมาะสมและดีที่สุดที่จะซื้อหรือขายกองทุนเพื่อหาโอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างในช่วงเวลาการลงทุนระยะสั้น เช่น นักลงทุนที่ซื้อกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิลดต่ำลง 10% และขายกองทุนออกในวันที่มูลค่าสินทรัพย์สุทธิปรับตัวสูงขึ้น 5% เป็นต้น อย่างไรก็ตามในทางปฎิบัติหากนักลงทุนใช้กลยุทธ์นี้บ่อยครั้งอาจส่งผลให้บริษัทจัดการมีความอยากลำบากในการจัดการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่ดี หากเกิดการซื้อขายกองทุนของนักลงทุนบ่อยครั้งเกินไปสำหรับกองทุนหุ้นที่มีผู้จัดการคอยดูแลบริหารให้และเหมาะสมสำหรับการลงทุนระยะยาว ดังนั้นบาง บลจ. อาจจะหาวิธีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซื้อขายที่เร็วเกินไป โดยกำหนดให้นักลงทุนจะต้องจ่ายค่าปรับ หรือ Penalty จากการขายหน่วยลงทุนบางกองทุนถ้านักลงทุนไม่สามารถถือกองทุนได้ตามเวลาขั้นต่ำที่กำหนด หรืออาจคิดค่าธรรมเนียมการขายคืนตามระยะเวลาการถือครอง เป็นต้น

กลยุทธ์ทุกข้อที่กล่าวมานั้น เป็นเกล็ดเล็กน้อยสำหรับผู้ลงทุนที่อยากจะหากลยุทธ์ในการลงทุน นักลงทุนหลายท่านที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุน  ก็ด้วยอาศัยประสบการณ์ และเทคนิคต่าง ๆ มากมาย ดังนั้นคุณต้องไม่ลืมนะครับว่าการลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง คุณจึงควรศึกษาวิเคราะห์รายละเอียดของสิ่งที่คุณจะลงทุนให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อนนะครับ สิ่งที่เรายกมาให้ท่านนั้น เป็นสิ่งที่จะช่วยให้ท่านใช้เพื่อประกอบการพิจารณาเลือกวิธีลงทุนเท่านั้น ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการลงทุนนะครับ

ที่มา : บัวหลวง Money Tips

    Choose :
  • OR
  • To comment