ปิรามิดการวางแผนการเงิน

 

หากจะเปรียบชีวิตของคนเราเสมือนการสร้างบ้านสักหนึ่งหลัง อันดับแรกต้องเริ่มจากการลงหลักปักฐานให้มั่นคงด้วยการลงเสาเข็มเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยต่อเติมส่วนอื่นของตัวบ้าน สร้างเสาสร้างคาน ผนังกำแพงไปจนถึงหลังคาบ้าน แต่สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการสร้างบ้านให้เสร็จคือความปลอดภัยของตัวบ้าน ต่อให้บ้านที่สร้างเสร็จแล้วออกมาหน้าตาสวยงามอย่างไรหรือใช้ของประดับตกแต่งหรูหราแค่ไหน แต่หากรากฐานไม่มีความมั่นคงแข็งแรงเสียแล้ว บ้านก็มีโอกาสทรุดหรือพังลงมาได้เช่นกัน

การวางแผนการเงินก็เช่นเดียวกัน คงไม่มีใครอยากก้าวพลาดในเส้นทางเดินของชีวิต ดังนั้น คงเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย หากเรามีการตระเตรียมความพร้อมให้กับทุกก้าวสำคัญของชีวิต โดยเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายขึ้นด้วยแผนภาพปิรามิดการวางแผนการเงิน (Financial Planning Pyramid) ซึ่งแบ่งลำดับชั้นออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน คือ  

ส่วนที่ 1 : Wealth Creation หรือกระบวนการสร้างความมั่งคั่ง จุดเริ่มต้นมาจากการออมนั่นเอง การสร้างความมั่งคั่งเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยจากการบริหารรายได้ รายจ่ายของเราให้เพียงพอ  อาจเริ่มต้นจากการทำบัญชีรับจ่าย เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามงบประมาณของเรา ควรกันเงินออมให้เป็นค่าใช้จ่ายตัวแรกที่ต้องหักไว้ก่อนค่าใช้จ่ายตัวอื่น  เริ่มต้นการออมอาจจะอยู่ที่ประมาณ 10% ของรายได้ก่อนหักภาษี และควรตั้งเป้าหมายการออมให้ท้าทายยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนที่ 2: Wealth Protection หรือการปกป้องความเสี่ยง พูดอีกนัยหนึ่งก็คือเป็นการวางแผนเพื่อตระเตรียมความพร้อมสำหรับความต้องการพื้นฐานในการดำเนินชีวิต ทั้งในเรื่องของการเก็บเงินไว้ใช้ในบั้นปลายเมื่อตอนเกษียณอายุ รวมถึงการจัดการความเสี่ยงภัยต่างๆ ซึ่งเปรียบเสมือนรากฐานของตัวบ้านที่ต้องเน้นสร้างให้แข็งแรงเพื่อความมั่นคงของบ้าน อาทิเช่น การสำรองสภาพคล่องหรือเงินสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉินที่ควรมีอย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน หรือการจัดการความเสี่ยงด้วยการโอนย้ายความเสี่ยงไปยังบุคคลอื่น (Risk Transfer) ซึ่งก็คือการทำประกันในรูปแบบต่างๆ นั่นเอง
ส่วนที่ 3: Wealth Accumulation หรือการสะสมความมั่งคั่ง เป็นเรื่องของการลงทุนและประหยัดภาษีเพื่อสะสมเงินไว้ใช้จ่ายในเป้าหมายต่างๆ เช่น การศึกษาของบุตร เป็นต้น การวางแผนภาษีถือเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้คุณลดภาระค่าใช้จ่ายด้านภาษีลง และมีเงินออมลงทุนมากขึ้น ในขั้นตอนนี้เปรียบเสมือนตัวบ้านที่สร้างขึ้นภายหลังจากที่มีรากฐานมั่นคงแล้ว รูปแบบการสะสมความมั่งคั่งทำได้หลายรูปแบบเริ่มตั้งแต่การออมในบัญชีเงินฝาก การลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินในรูปแบบต่างๆ ที่มีความซับซ้อนและมีความผันผวนมากขึ้น  รวมถึงการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีให้ครบถ้วนและการลงทุนประหยัดภาษี
ส่วนที่ 4: Wealth Distribution หรือการส่งต่อความมั่งคั่ง นั่นก็คือ การนำเงินไปลงทุนและการวางแผนมรดก เมื่อเรามีฐานที่มั่นคงด้วยการเตรียมพร้อมความต้องการพื้นฐานของชีวิตและมีการจัดการความเสี่ยงภัย เสริมความแข็งแรงด้วยการสะสมความมั่งคั่งไว้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือการลงทุนและการส่งต่อความมั่งคั่งไปยังคนที่เรารัก ในส่วนนี้เป็นการจัดการเงินส่วนที่เหลือไปลงทุนในรูปแบบต่างๆ เพื่อคาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้น รวมถึงวางแผนปกป้องและเลือกวิธีการส่งมอบความมั่งคั่งนั้นให้กับลูกหลานต่อไป โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุ รูปแบบการดำเนินชีวิต รวมถึงความสามารถในการยอมรับผลกำไรหรือขาดทุน

     
ที่มา :  ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล ธนาคารกสิกรไทย

    Choose :
  • OR
  • To comment