กฎแห่งเงินลงทุน 3/1 ตอนที่ 2

 

ส่วนที่ 1 : ลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน

กฎการลงทุนกล่าวไว้ว่า “ผลตอบแทนที่สูงมักจะมีความเสี่ยงที่สูง” แน่นอนเมื่อเราจะตัดสินใจลงทุนในกิจการ ธุรกิจ หรืออุตสาหกรรมใดก็ตาม สิ่งที่คาดหวังของผู้ลงทุนก็คือผลตอบแทนสูงสุด แต่ด้วยกฎทั่วไปของการลงทุนที่ว่าด้วยความเสี่ยง จึงทำให้เราต้องใช้ข้อมูลจริงในการวิเคราะห์หาความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับสิ่งที่คิดจะลงทุน เพื่อหาวิธีจำกัดความเสี่ยงนั้น ๆ แต่ในเงินลงทุนส่วนนี้ เรามุ่งเน้นที่จะลงทุนในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูงแต่ให้ผลอตอบแทนสูงเช่นกัน และเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสุงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่สูงที่สุดของธนาคารหรือสถาบันการเงิน ดังนั้น อัตราผลตอบแทนที่คาดหวังจากเงินลงทุนส่วนนี้คือ 15-40 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุน ได้แก่ การลงทุนในตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ เช่น หุ้น SET Index , SET 100 เป็นต้น และตลาดเงิน เช่น ตลาดซื้อขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เงินยูโร และเงินเยน เป็นต้น

            การเตรียมความพร้อมก่อนการลงทุนคือ การเรียนรู้ ศึกษาและเข้าฟังสัมมนา ข้อมูลตลาดทุนและตลาดเงินให้เข้าใจอย่างชัดเจนและถ่องแท้ สามารถวิเคราะห์หรือประเมินสิ่งที่จะลงทุนได้ในเบื้องต้น จากนั้นเลือกเครื่องมือการลงทุนที่มั่นใจที่สุด จึงลงทุนด้วยข้อมูลจริงไม่ตามกระแสนิยมวิเคราะห์ด้วยความเป็นกลางไม่เข้าข้างตัวเอง จากนั้นจึงตัดสินใจลงทุน

ส่วนที่ 2 : ลงทุนที่ให้ผลตอบแทนปานกลางถึงสูง มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในส่วนที่ 1

            การใช้เงินลงทุนในส่วนที่ 2 นั้นต้องเลือกเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสม เพราะเป้าหมายการลงทุนเพื่อจำกัดความเสี่ยงของเงินลงทุน ด้วยการเลือกลงทุนกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูง แต่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง ดังนั้น การคาดหวังกับเงินลงทุนในส่วนนี้จึงอยู่ที่ 10-30 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุน ได้แก่ การลงทุนในกิจการ ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมใด ๆ ที่ได้รับการวิเคราะห์เบื้องต้นแล้วว่าน่าลงทุน มีความเสี่ยงที่รับได้ เช่น เปิดร้านอาหาร ร้านเสริมความงาม ร้านบริการนวดแผนไทย หรือสปา ร้านขายหนังสือ ร้านขายกาแฟ ร้านขายสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ร้านอินเทอร์เน็ต ร้านขาย/ซ่อมคอมพิวเตอร์ ร้านขายเสื้อผ้า และอื่น ๆ

            การลงทุนลักษณะนี้เป็นการลงทุนที่จับต้องได้ สามารถบริหารงานเองได้หรือว่าจ้างมืออาชีพมาบริหารงานแทนได้ แต่การลงทุนประเภทนี้จะต้องใช้องค์ประกอบในการพิจารณาหลายประการในการตัดสินใจ เช่น คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่จะขาย สถานที่ประกอบการกับความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ กลุ่มลูกค้าที่คาดหวัง และเศรษฐกิจของประเทศ หรือเลือกการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมต่าง ๆ ซื้อหุ้นใน SET 50 ที่มีความมั่นคงและจ่ายเงินปันผลสูง (โดยถือหุ้นระยะยาวไม่น้อยกว่า 6 เดือน) เป็นต้น

ส่วนที่ 3 : ลงทุนที่ให้ผลตอบแทนปานกลาง มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในส่วนที่ 2

            การใช้เงินลงทุนในส่วนที่ 3 นี้ ต้องเลือกเครื่องมือการลงทุนที่มีความเหมาะสม เพราะเป้าหมายของการลงทุนเพื่อกำจัดความเสี่ยงให้ต่ำแต่ยังคงให้ผลตอบแทนปานกลาง ช่องทางการลงทุนนี้ต้องเลือกเครื่องมือการลงทุนที่มีความมั่นคง ดังนั้น การคาดหวังผลตอบแทนจะอยู่ที่ 7-15 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุน ได้แก่ ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาวตั้งแต่ 3-10 ปี แต่มีความปลอดภัยในเงินลงทุนมากที่สุดและมีความเสี่ยงต่ำที่สุด ลงทุนในกองทุนทองคำก็เป็นการลงทุนระยะยาวเช่นกันตั้งแต่ 3-5 ปี มีความปลอดภัยในเงินลงทุนน้อยกว่าพันธบัตรรัฐบาล และลงทุนในหุ้น SET 50 ในหุ้นที่เกี่ยวกับธุรกิจปัจจัยสี่และจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอทุกปี เป็นต้น

            ดังนั้น การลงทุนในส่วนนี้จะมุ่งเน้นการลงทุนระยะยาว คาดหวังเงินปันผลจากผลประกอบการเป็นหลัก และเป็นการรักษาเงินลงทุนให้มีความปลอดภัยในระดับที่มีความเสี่ยงต่ำ การที่เราจัดสรรเงินทุนเพื่อการลงทุนในแต่ละประเภทของธุรกิจหรืออุตสาหกรรมนั้น ก็เพื่อให้เงินของเราทำงานที่หลากหลายและจำกัดความเสี่ยงจากการลงทุน หากเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดหรือไม่สามารถควบคุมได้ อีกทั้งยังสามารถเรียกคืนเงินลงทุนได้บางส่วนโดยไม่สูญเสียทั้งหมด

            อะไรคือปัจจัยเสี่ยงที่ไม่คาดคิดและไม่สามารถควบคุมได้ ปัจจัยหลัก คือ เศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลต่อรายได้ประชาชาติ การส่งออก ค่าครองชีพ ภาวะการว่างงาน การจลาจลในประเทศ และสงคราม เป็นต้น ปัจจัยรอง คือ ปัญหาส่วนตัวหรือครอบครัวที่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อการรักษาพยาบาล   ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการเลือกการลงทุนที่ดีที่สุด คือ การเลือกลงทุนในกิจการหรืออุตสาหกรรมที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ในระยะเวลาอันสั้น ทำไมจึงแบ่งจัดสรรเงินลงทุนในประเภทธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน

            การลงทุนที่แตกต่างแต่ละประเภท มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาผลตอบแทนจากการลงทุนในอัตราเฉลี่ย 10.66-28.33 เปอร์เซ็นต์ ให้มีมูลค่าสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ เป็นการลดและจำกัดความเสี่ยงของเงินลงทุน และที่สำคัญ เราสามารถเปลี่ยนตัวเองจากทาสของเงินเจ้านาย มาเป็นเจ้านายของเงินแทน โดยใช้เงินทำงานเพื่อเป็นก้าวเริ่มต้นไปสู่อิสรภาพทางการเงิน

"เมื่อคุณเริ่มใช้กฎแห่งการลงทุน 3/1
คุณก็มีเงินทาสผู้ซื่อสัตย์ถึง 3 กองทัพเงินย่อย
การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
คือ การลงทุนในกิจการ
หรืออุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน"

    Choose :
  • OR
  • To comment