เทคนิคการออมเงิน: ใครว่าเงินเก็บไว้ไม่เน่า จริง ๆ มันเฟ้อได้นะแถมมากเสียด้วย
เงินนั้นมีค่าลดลงทุกวัน เราเรียกการลดลงในค่าของเงินว่า “เงินเฟ้อ” สาเหตุที่เงินเฟ้อก็คือเงินนั้นมีปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะรัฐบาลมีการผลิตเงินออกมาอย่างต่อเนื่อง ให้เหมาะสมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ในขณะที่ของอย่างอื่นไม่ว่าจะเป็นทอง น้ำมน สินค้าการเกษตร หรือที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่เงินมีปริมาณมากขึ้น ก็ไม่น่าแปลกใจที่ค่าของเงินจะลดลงตามเวลา
เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เราเติมน้ำมันเบนซินกันลิตรละ 10-12 บาท แต่ปัจจุบันปาเข้าไปกว่า 30 บาท ข้าวแกงจานละ 10-15 บาท ก็กลายเป็นจานละ 25-35 บาท ส่วนน้ำตาลจากกิโลกรัมละ 10 บาท ก็ยังขยับไปเป็นเกือบ 30 บาท ขึ้นกันเป็นเท่าตัวแทบทุกอย่าง ค่าของเงินจึงลดลงตามเวลา และพอจะกะว่าลดลงเหลือแค่ครึ่งเดียวใน 20 ปี
เมื่อมองย้อนหลังกลับไปจะพบว่า ประเทศเรามีเงินเฟ้อเฉลี่ยประมาณ 3% ต่อปี เมื่อรวมไป 20 ปีก็จะได้ประมาณ 1.9 เท่าตัว ผู้เขียนจึงใช้วิธีประมาณเพื่อให้วิธีคิดง่าย ๆว่า ทุก ๆ 20 ปี หากเหตุการณ์ยังเป็นเช่นนี้ ค่าเงินเราจะเหลือแค่ครึ่งหนึ่ง
นั่นหมายถึงว่าอีก 40 ปี ค่าเงินของเราก็อาจจะเหลือเพียงแค่ 1 ใน 4 ของปัจจุบัน หากคุณเอาเงินใส่ตุ่มแล้วฝังดินไว้ 1,000,000 บาท ผ่านไปอีก 40 ปี ขุดขึ้นมาก เงิน 1,000,000 บาท จะซื้อสินค้าได้เท่ากับ 250,000 บาทในปัจจุบัน
การไม่ปล่อยเงินให้นิ่ง แต่นำเงินไปลงทุนโดยเฉพาะที่ได้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินเฟ้อจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่หลายคนก็กลัวเงินต้นจะสูญ ผู้เขียนจึงรวบรวมวิธีลงทนตามความเสี่ยงไว้ให้คุณผู้อ่านเลือก เพื่อพิจารณาว่าเราสามารถเสี่ยงได้ในระดับใด