เทคนิคการออมเงิน: วิธีจัดการกับหนี้สิน

 

เทคนิีคการออมและการลงทุน
เทคนิคการออมเงิน: วิธีจัดการกับหนี้สิน

เทคนิคการออม: ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นทำอะไรก็แล้วแต่ คุณจำเป็นต้องสะสางหนี้สินทั้งหมด หรืออย่างน้อยก็ทำให้หนี้สินอยู่ในภาวะที่คุณสามารถควบคุมได้เสียก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วคุณจะไปลงทุนทำอะไรก็ลำบาก เพราะมันจะทำให้คุณตกอยู่ในช่วงวิกฤตอยู่ตลอดเวลา กิจการที่คุณเริ่มต้นจะไม่มีทางก้าวหน้าเนื่องจากดอกเบี้ยมันจะคอยฉุดรั้งคุณเอาไว้ และมันก็ยากที่จะทำให้คุณมองเห็นกำไร

เรื่องของหนี้สินจึงเป็นสิ่งแรกที่คุณต้องเห็นความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อมีหนี้ก็ต้องหาทางใช้หนี้ ไม่ใช่หาทางหนีหนี้ เพราะนั่นหมายถึงคุณกำลังวิ่งเข้าสู่ทางตัน ไม่มีใครหนีหนี้ไปได้ตลอดหรอกครับ และอีกอย่างการสะสางปัญหาหนี้สินมันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่เราต้องรู้จักวางแผนให้เป็นระบบและเป็นขั้นเป็นตอน เริ่มจากอันดับแรก เราต้องรู้ว่าหนี้สินทั้งหมดของเรามีมากน้อยเพียงใด เพื่อที่จะได้รู้ว่าปัญหาของเราเริ่มต้นที่ตรงไหน เพื่อหาทางสะสางหนี้สินทั้งระบบ

เพราะตราบใดที่เรายังสะสางหนี้ไม่ได้ หรือควบคุมหนี้สินให้ได้เสียก่อนนั้น มันก็เท่ากับคุณล็อกประตูที่จะเปิดไปสู่เส้นทางเศรษฐีของเราเอาไว้ นอกจากประตูจะล็อกแล้ว ยังเหมือนเป็นโซ่ตรวนที่จะทำให้คุณทำอะไรก็ลำบาก ประมาณว่าเป็นตัวถ่วง ถ้าเราอยากจะรวยให้ได้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือควบคุมหนี้ให้อยู่ในกำมือ

1.       สำรวจหนี้สินทั้งหมด
ก้าวแรกที่คุณจะก้าวออกจากการเป็นลูกหนี้ คุณต้องรู้ก่อนว่าหนี้สินทั้งหมดของคุณมีอะไรบ้าง สำรวจให้หมดและจดเป็นรายการหนี้ออกมา ทั้งหนี้เก่าคงค้าง และหนี้ที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน ในส่วนนี้หมายถึงค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าห้อง ค่าผ่อนสินค้าต่าง ๆ ด้วยนะครับ จดมาให้หมด เพื่อที่ว่าเราจะได้มาแยกแยะหนี้ออกเป็นแต่ละประเภทกัน
2.       ลดหนี้สินด้วยการเจรจา
เมื่อเรารู้แล้วว่าหนี้ของเรามีอะไรบ้าง เราจำเป็นต้องลดปริมาณหนี้ลงไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่ว่าให้หนี้สินที่มีไม่เป็นภาระหรืออยู่ในระดับที่เราสามารถควบคุมได้ และถ้าจะให้ดีที่สุดคือสามารถจัดการหนี้สินได้ทั้งหามด และเหลือเอาไว้เพียงแต่ในกลุ่มแรกเท่านั้น
 การจะลดหนี้ได้นั้นเราต้องมีความกล้า ประกอบกับการเจรจาที่ดีเพียงพอ บอกเจ้าหนี้ไปตรง ๆ ถึงฐานะทางการเงินและปัญหาของเรา ณ เวลานั้นเพื่อหาทางออกร่วมกัน เราใช้หนี้เขาได้ เขาได้หนี้ เราหมดหนี้ไม่ต้องถูกฟ้องร้อง ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย ไม่มีเจ้าหนี้ที่ไหนหรอกครับที่เขาจะไม่ช่วยหาทางออกให้เรา ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะกล้าพอหรือไม่
เทคนิคการออม:

- หนี้ที่ต้องจ่ายทันที  ในส่วนนี้เราสามารถลดหนี้ได้ด้วยตัวเราเอง จากที่เคยใช้น้ำไฟปกติ ก็ประหยัดหน่อย อะไรไม่ใช่ก็ปิดเสีย เม็ดเงินในกระเป๋าจะได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อที่ว่าเราจะได้นำไปใช้แบ่งเบาหนี้ในส่วนอื่น ๆ
- หนี้ที่มีดอกเบี้ย  ส่วนมากเกิดจากการซื้อข้าวของเครื่องใช้เป็นเงินผ่อน เงินกู้ ค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่จำเป็นตัดได้ก็ตัดเสีย เพราะบางครั้งเราก็มักจะหมดเงินไปกับอะไรที่เราไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์
- หนี้สินที่สามารถผ่อนผันออกไปได้  จริง ๆ แล้วหนี้สินทุกรายการนำมาเข้าในส่วนนี้ได้หมด ขึ้นอยู่ที่ว่าเราวางแผนที่แค่ไหน อย่างค่าน้ำค่าไฟ หรือค่าห้อง เขาก็มีระยะกำหนดเวลา แต่ไม่ควรให้เลยเวลานะครับ ส่วนมากมีค่าปรับ
- หนี้ที่ค้างชำระได้  ในส่วนนี้คือหนี้สินที่มีระยะเวลากำหนดเอาไว้แน่นอน อย่างเช่น เว้นระยะการชำระได้  1เดือน  หรือ  2 เดือนเป็นต้น แต่ไม่ใช่ว่าจะสัก ๆ แต่ว่ายืดเวลาออกไป ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นก็ไม่ต้องเลื่อนหรอกครับ
- หนี้สินค้างชำระที่มีการฟ้องร้อง  ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาก็เพื่อแก้ปัญหาส่วนนี้ นั่นคือหนี้ที่มีการฟ้องร้องแล้ว หรือมีจดหมายว่าจะฟ้องร้อง คุณอย่าคิดว่าเขาแค่ขู่เชียวนะครับ เขาเอาจริง อย่าไปคิดว่าเงินแค่นี้ไม่คุ้มที่เขาจ้างทนายมาฟ้องเราเด็ดขาด

เพราะเขาไม่จำเป็นต้องเสีย ยังไงเขาก็ชนะคดี ก็โดยมากเราจะไม่มีโอกาสได้แก้ต่างอะไรเลย เนื่องจากเข้าไปฟ้องกันตอนไหนก็ไม่รู้ ส่วนใหญ่จะอ้างว่าได้ส่งจดหมายไปแล้ว แต่ทางเราไม่ติดต่อไป เมื่อมีแต่โจทย์ฝ่ายเดียวเขาก็ชนะเห็น ๆ แล้วก็จะมาพร้อมกับจดหมายยึดทรัพย์ และกลายเป็นว่านอกจากที่เราจะต้องจ่ายหนี้สินแล้ว เรายังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมศาล และค่าทนายความที่เกิดขึ้นทั้งหมดตามจริงอีกต่างหาก

เทคนิคการออม:
       

    Choose :
  • OR
  • To comment