เทคนิคการออมเงิน: ฝากเงินอย่างไรให้รวย

 

เทคนิคการออมเงิน: ฝากเงินอย่างไรให้รวย

เนื่องด้วยวันออกแห่งชาติตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี ได้มีสำนักวิจัยมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งย่านบางเขน ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับการเก็บออมของประชาชน จากกลุ่มตัวอย่าง 3,000 คน พบว่าเมื่อถามถึงการออกเงินนั้น ประชาชนส่วนใหญ่จะเก็บออมเงินเฉลี่ยปีละไม่เกิน 10,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 44.60 รองลงมา 10,001 – 50,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 34.00 และอันดับสุดท้าย 50,001 – 100,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 13.97

ในส่วนของการจัดส่วนเงินออมต่อรายได้ในแต่ละเดือนนั้นประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้กำหนดไว้แน่นอน ออมเงินตามที่เหลือ คิดเป็นร้อยละ 53.60 รองลงมาไม่ได้ออมเงินเลย คิดเป็นร้อยละ 15.27 และอันดับสุดท้ายออมประมาณร้อยละ 1-5 คิดเป็นร้อยละ 14.37

สำหรับรูปแบบวิธีการออมเงินของประชาชนส่วนใหญ่นั้นจะใช้วิธีการออมเงินแบบบัญชีเงินฝากกับธนาคาร(ออมทรัพย์) คิดเป็นร้อยละ 51.37 รองลงมาออมแบบเงินสด คิดเป็นร้อยละ 12.97 และอันดับสุดท้ายออมเงินกับบัญชีเงินฝากับธนาคาร (ฝากประจำ) คิดเป็นร้อยละ 12.80 

ส่วนเหตุผลหลักในการออกเงินนั้นประชาชนส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าเพื่อใช้จ่ายยามฉุกเฉิน คิดเป็นร้อยละ 38.73 รองลงมาเพื่อวางแผนอนาคต เช่น การศึกษาของบุตร, การลงทุน, แผนการศึกษาของตนเอง คิดเป็นร้อยละ 21.70 และอันดับสุดท้าย เพื่อใช้จ่ายยามเจ็บป่วย คิดเป็นร้อยละ 14.03

ในช่วงเศรษฐกิจตกสะเก็ดแบบนี้ หากคุณเป็นพนักงานกินเงินเดือน และไม่มีรายได้อื่นที่ไหน การเก็บเงินให้ได้ปีละ 50,000 บาท ค่อนข้างยากลำบากพอสมควร เพราะอย่างน้อยต้องเก็บต่อเดือน เดือนละ 4,167 บาท ซึ่งหากไม่มีวิธีการฝากเงินอย่างไรให้รวยที่ถูกวิธี หนทางที่เราจะเก็บเงินให้ได้ 50,000 บาทต่อปีก็ค่อนข้างยาก

หัวใจสำคัญของการออมคือ การบังคับจิตใจของตัวเอง การที่คนเรามี “เป้าหมาย” อย่างหนึ่งอย่างใดในอนาคตกำหนดไว้อย่างชัดเจนแน่นอน ก็จะทำให้เกิดความกระตือรือร้นที่จะเก็บออมมากขึ้น เป้าหมายของแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น  บางคนอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง อยากมีชีวิตที่สุขสบายในยามปลดเกษียณ หรือหวังที่จะให้ลูกหลานมีหลักฐานมั่นคง

    Choose :
  • OR
  • To comment