เทคนิคการออมเงิน: อย่าพึ่งรายได้ที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต

 

เทคนิคการออมเงิน: อย่าพึ่งรายได้ที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต

เทคนิคการออมเงิน: คนจำนวนไม่น้อยใช้จ่ายเงินโดยนำสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตเช่น รายได้ก้อนใหญ่จากการเป็นนายหน้า ส่วนแบ่งมรดก เงินโบนัส เงินปันผล หรือแม้แต่เงินจากกรคอร์รัปชันในอนาคต มาประกอบการตัดสินใจใช้จ่ายในปัจจุบัน

วิธีคิดเช่นนี้เป็นอันตราย เพราะเป็นการตัดสินใจที่ประมาท ใช้สิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นเป็นฐานในการพิจารณา เมื่อโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน (ที่แน่นอนคือความตายและการเสียภาษีเท่านั้น) การตัดสินใจผิดพลาดจึงเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นหนี้สินโดยไม่คาดฝันและความยุ่งเหยิงในชีวิต

เทคนิคการออมเงิน: การประคับประคองชีวิตตนเองและครอบครัวให้อยู่ดี อยู่รอดและปลอดภัยไปตลอดนั้นมิใช่เรื่องง่าย เพราะชีวิตมนุษย์และเส้นทางชีวิตนั้นเปราะบางนัก ชีวิตมีเรื่องความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวพันด้วยทุกขั้นตอนและทุกขณะจิต ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อใดหางเสือของบ้านจะเสียชีวิต ตกงาน ประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วยจนต้องเสียเงินทองมากมาย ภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจผันผวนจนการประกอบธุรกิจขาดทุน ถูกคดโกง ฯลฯ การตัดสินใจทางการเงินจึงต้องกระทำอย่างมีเหตุมีผลด้วยความรอบคอบ อยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง มิใช่อยู่กับความผันลม  ๆ แล้ง ๆ เช่นการคาดคะเนรายได้ที่เชื่อว่าจะได้รับในอนาคต

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ การใช้จ่ายไปก่อนโดยคาดว่าจะได้รับรายได้ในอนาคตจากสิ่งที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรม เช่น การคดโกง การฉ้อราษฎร์บังหลวง ฯลฯ การคิดลักษณะนี้มีความเสี่ยงสามระดับ

     1.เมื่อใช้จ่ายเงินอย่างสนุกมือในปัจจุบันจนหมด และไม่มีโอกาสที่จะกระทำสิ่งเลว ๆ ได้ จึงก่อเกิดหนี้สินขึ้นแทน
     2.ตลอดเวลาการทำงานมิได้คิดกระทำสิ่งสร้างสรรค์ เพราะคอยคิดแต่จะหาหนทางกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
     3.มีโอกาสย้ายบ้านไปอยู่ในคุก หรือชีวิตทุกระทมเมื่อถูกจับได้

การออมเงินที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน โดยกันเงินส่วนหนึ่งออกมาจากรายได้ที่ได้รับจริงและใช้จ่ายอย่างรอบคอบ คือการอยู่กับโลกความเป็นจริง เนื่องจากการตัดสินใจทั้งหลายกระทำอย่างไม่เพ้อฝันและไม่แขวนอยู่กับสิ่งที่ยังมิได้เกิดขึ้น

เทคนิคการออมเงิน: การใช้จ่ายตามวิธีคิดแบบพึ่งพิงจินตนาการและความเชื่อมั่นว่าจะเกิดรายได้ในอนาคตเป็นสิ่งที่พึงหลีกเลี่ยงอย่างยิง เนื่องจากจะทำให้เกิดการกระทำที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง จนทำให้เกิดหนี้สินพะรุงพะรังขึ้นโดยง่าย สิ่งสำคัญที่สุดทำให้เกิดความสุรุ่ยสุร่ายในการใช้จ่ายขึ้นอย่างไม่จำเป็น

มนุษย์มีจุดอ่อนอยู่หลายอย่าง อย่างหนึ่งที่ฉกรรจ์คือ “มักเชื่ออย่างที่ตนเองอยากเชื่อ” รายได้ที่ “มั่นใจ” ว่าจะเกิดขึ้นนั้นอาจมาจากความเชื่อว่าจะได้รับส่วนแบ่งมรดก การได้รับโบนัสก้อนใหญ่ การได้ค่านายหน้า ฯลฯ ความเชื่อว่าจะได้รับทำให้ทึกทักเอาว่าเป็นความจริง และเมื่อรายได้ในอนาคตเกิดความผิดพลาดขึ้น แต่รายจ่ายในปัจจุบันไม่ผิดพลาด เพราะได้ใช้จ่ายไปแล้ว ก็พอเห็นภาพได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

จงใช้จ่ายตามรายได้จริงที่ได้รับในปัจจุบัน หากได้รับรายได้ก้อนใหญ่ในอนาคตจริงตามความคาดฝัน ก็ให้คิดว่าเป็นของแถมการคิดเช่นนี้จะทำให้เกิดภาวะของการจัดการการเงินที่ดีและมีใจที่สงบ

    Choose :
  • OR
  • To comment