เทคนิคการออมเงิน: ฉลาดใช้ฉลาดมีบัตรเครดิต
การใช้และการมีบัตรเครดิตอย่างถูกวิธี เริ่มจากในการทำสัญญาบัตรเครดิตระหว่างเรากับธนาคารผู้ออกบัตรก็คือ เราต้องอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขการใช้ให้เข้าใจมากที่สุด ตั้งแต่วงเงินที่ได้รับ อัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และวิธีการชำระเงิน นอกจากนี้ยังควรทำความเข้าใจถึงสิทธิของเราในฐานะผู้ถือบัตรให้ดีด้วย อย่าเกรงใจที่จะถามหากเกิดความสงสัยในตัวบัตรที่เราถืออยู่ ทั้งนี้เพื่อความชัดเจนในการใช้และเพื่อรักษาสิทธิของเราในฐานะผู้ถือบัตรด้วย
ข้อดีสูงสุดในการซื้อของผ่านบัตรเครดิตก็คือ สามารถชอปของที่ถูกใจได้ทันทีแม้ว่าขณะนั้นเราจะไม่มีเงินสดติดตัวก็ตาม
ข้อเสีย ถ้าหากเราใช้จ่ายแบบไม่ยับยั้งชั่งใจแล้วตัวเลขหนี้ในบัญชีบัตรเครดิตก็คงยาวเป็นหางว่าว ดังนั้น ถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้บัตรกับสินค้าหรือบริการที่จำเป็นด้วย เช่น ใช้บัตรเครดิตกับการเติมน้ำมัน ของกินของใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต
เรื่องที่เราควรรู้ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ระยะเวลาที่เรียกว่า “ระยะปลอดดอกเบี้ย” ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เราไม่ต้องเสียค่าดอกเบี้ยจากการใช้บัตรโดยระยะเวลาดังกล่าวจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคารผู้ออกบัตร โดยเราสามารถดูได้จากในใบเรียกเก็บเงินที่ธนาคารส่งมาให้วันนัดชำระเงินวันสุดท้ายนั่นละที่เรียกว่า ระยะปลอดดอกเบี้ย
เทคนิคการใช้วงเงิน ค่าใช้จ่ายประจำเดือนไม่ควรเกินร้อยละ 10 ของรายได้สุทธิของตัวเองในแต่ละเดือน สมมุติว่าเงินเดือน 10,000 บาท ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการกู้ยืม รวมไปถึงค่าใช้จ่ายจากการใช้บัตรเครดิตไม่ควรเกิน 1,000 บาท จึงจะถือว่าเป็นการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพที่สุด
สุดท้ายที่เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ถ้ารักจะมีบัตรเครดิตและเราควรใส่ใจกับทุกขั้นตอนการรูดชำระเงินเป็นพิเศษ ไม่ควรเดินไปที่อื่นหรือคุยโทรศัพท์โดยไม่ได้มองพนักงาน และควรตรวจสลิปบัตรเครดิตให้ละเอียดรอบคอบทุกครั้งก่อนเซ็นต์ชื่อ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมิจฉาชีพสามารถใช้กลโกงนี้ได้
สรุปสาระสำคัญของการใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด วิธีการที่ดีที่สุดคือ การยืมเงินหรือใช้จ่ายเงินล่วงหน้าภายในวงเงินที่คุณสามารถใช้คืนได้ กฎโดยทั่วไปคือ คุณควรจะจำกัดยอดการกู้ยืมเงินไว้ที่ 10% ของรายได้ ควรแน่ใจว่าในการชำระเงินที่กู้ยืมมานั้นคุณไม่ต้องจ่ายค่าปรับสิ่งนี้จะช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นในการชำระเงินเวลาใดก็ได้ รวมถึงควรอ่านรายละเอียดต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน เพราะมีข้อแตกต่างมากมายระหว่าง ผู้ออกบัตรเครดิตและเงื่อนไขการจ่ายคืน หากคุณชำระหนี้เลยระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยหรือคุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ หากออกก็คือคุณต้องสู้ความจริง โดยการอธิบายกับสถาบันการเงินของคุณว่า ต้องการความช่วยเหลือในด้านการจัดตารางการชำระหนี้ใหม่ ซึ่งธนาคารส่วนใหญ่จะช่วยคุณคิดหาเงื่อนไขที่คุณสามารถทำได้
ข้อคิดการใช้บัตรเครดิต :เทคนิคการออมเงิน
ให้คิดไว้เสมอว่า “ใช้เท่าไรต้องชำระเท่านั้น” พร้อมทั้งเลือกใช้บัตรเครดิตที่ให้สิทธิประโยชน์ตรงกับความต้องการของเราให้มากที่สุด แบบนี้ถึงจะเรียกได้ว่าใช้บัตรเครดิตอย่างคุ้มค่าและปลอดหนี้
