ปลดพันธนาการหนี้ .... เรื่องดีที่ต้องรีบลงมือทำ

 

ยุคที่การเป็นหนี้ง่ายเสียยิ่งกว่าการทำบุญ ไม่ว่าจะเดินเหินไปทางไหน ล้วนเจอแต่ละพานสร้างหนี้ได้แบบง่ายแสนง่ายโดยไม่ต้องเสียเวลาไปแบงก์ไม่ว่าจะตีนสะพานลอย สถานีรถไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งทางโทรศัพท์ 

หนี้จึงเปรียบเสมือนอวัยวะติดตัวของคนจำนวนไม่น้อยและคุณสมบัติเด่นของหนี้คือ "สร้างง่ายแต่กำจัดยาก" สิ้นดี บางครอบครัวปล่อยให้หนี้พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จนสนิทสนมคุ้นเคยกับคำว่าหนี้เป็นอย่างดี ทั้งหนี้นอกระบบและหนี้ในระบบล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพทางการเงินของคุณทั้งสิ้น 


หากวันนี้หนี้ทำให้สุขภาพทางการเงินของคุณกระท่อนกระแท่น เช่นรายได้เดือนละ 25,000 บาท แต่ต้องกันเงินไว้ใช้หนี้บัตรเครดิต ผ่อนรถ สินเชื่อบุคคล เบ็ดเสร็จแล้วเดือนละ 20,000 บาท เลิกคิดไปได้เลยที่จะเหลือไว้ออม เพราะยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้แค่ 5,000 บาท เผลอๆใช้ได้ไม่ถึงครึ่งเดือนก็เกลี้ยงกระเป๋า จนต้องไปกู้ยืมเงินมาเสริมสภาพคล่องเพื่อใช้ให้ชนเดือน

นี่เป็นสัญญาณร้ายที่กะพริบเตือนว่า สุขภาพทางการเงินของคุณอยู่ในภาวะย่ำแย่เต็มที ฉะนั้นสิ่งที่ควรลงมือทำในวันที่คือจัดการกับต้นเหตุอย่างจริงจังเสียที หลายคนอาจจะรู้สึกว่าการปลดหนี้นั้นยากเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา(เอเวอร์เรสท์) แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีอะไรยกเกินความสามารถ ค่อยๆ ปลดเปลื้องไปทีละนิด จะได้สัมผัสความรู้สึกที่ว่ายกภูเขาออกจากอกนั้นเป็นอย่างไร ใครยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ลองทำตามบัญญัติ 5 ประการสำหรับจัดการหนี้ดังต่อไปนี้

1. หยุดสร้างหนี้เพิ่ม 
ถ้าในแต่ละเดือนคุณต้องจ่ายหนี้เดือน 20,000 บาททั้งที่เงินเดือน 25,000 บาท นั้นเท่ากับว่าสิ่งแรกที่คุณต้องทำคือประกาศเป็นศัตรูกับหนี้ทุกประเภท เช่นอยากได้มือถือรุ่นใหม่ใจจะขาด คุณอาจจะคิดว่าถ้าใช้วิธีผ่อนจ่ายรายเดือน 12 เดือน ก็มีหนี้เพิ่มอีกแค่เดือนละ 2,000 บาทเท่านั้นเอง อย่าเด็ดขาด! ถ้ามัวแต่คิดแบบนี้คุณก็จะก้าวไม่พ้นจากกับดักแห่งหนี้แน่นอน

หนทางที่จะปลดเปลื้องหนี้ได้ ต้องท่องให้ขึ้นใจว่า ไม่ว่าหนี้หน้าไหนก็อย่างได้ไปข้องแวะด้วย จะเป็นหนี้นอกหรือในระบบจะก้อนเล็กหรือใหญ่ก็ช่าง ถ้าผ่านด่านแรกนี้ไปได้ ประตูสู่อิสรภาพทางการเงินเปิดรอคุณแล้ว

2. รัดเข็มขัด 
หยุดสร้างหนี้เพียงอย่างเดียวคงไม่พอ สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณต้องรู้จักใช้จ่ายให้เป็น ควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รีดค่าใช้จ่ายที่เป็นไขมันส่วนเกินออกให้มากที่สุด เรียกว่า ในพจนานุกรมของคุณต้องมีคำว่า "ประหยัด" และ "มัธยัสถ์" และดีลีทคำว่า "ฟุ้งเฟ้อ" และ "ไม่จำเป็น" ออกไปโดยเร็ว

วิธีรัดเข็มขัดก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพียงแค่คุณลองลิสต์รายการใช้จ่ายประจำเดือนอออกมาทุกอย่างก็จะปรากฏและฟ้องว่า มีค่าใช้จ่ายตรงไหนบ้างที่บางทีอาจไม่จำเป็นกับชีวิตคุณเท่าไหร่ แต่คุณก็เสียสตุ้งสตางค์ให้กับสิ่งเหล่านี้แทบทุกเดือน เช่นค่าเคเบิลทีวีเดือนละหลายพันบาท ทั้งที่ความจริงแทบไม่ได้ดูอะไรเท่าไหร่ เพราะกว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกดื่นค่อนคืนแล้ว อันนี้คงต้องทบทวนว่า ถ้าไม่จำเป็นหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก็อาจจะตัดรายจ่ายตรงนี้ออกสนองนโยบายรัดเข็มขัดอย่างน้อยงบดุลของคุณในฝั่งรายได้ก็จะมีเงินเพิ่มขึ้นอีกหลายพันเชียวล่ะ

3. เปลี่ยนนิสัยใช้จ่าย 
ข้อนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่สุด บางคนอาจจะบอกว่ายาก ขณะที่บางคนบอกว่าง่าย เพราะคำว่า "นิสัย" นี่แหละเปลี่ยนยากเสียเหลือเกิน แต่ยามที่สุขภาพทางการเงินย้ำแย่ หนี้ท่วมแบบนี้ ถ้าคุณยังใช้นิสัยจับจ่ายเพลินมือแบบเดิมๆเห็นทีจะพ้นกับดักหนี้ยาก เข้าใจอยู่หรอกว่าชีวิตคนโสดหรือไม่โสดก็ตามที มักจะมีเรื่องพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงเป็นการคลายเครียด แต่ถ้าหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ คุณยังปาร์ตี้สัปดาห์ละ 3 คืนทั้งๆ ที่หนี้ท่วมหัว อันนี้ก็อาจจะเครียดยิ่งกว่าเดิม ทางที่ดีช่วงจัดการหนี้ ควรลด ละ เลิกซะ ปรับเปลี่ยนนิสัยใชัจ่ายแบบเดิมๆ เชื่อสิว่าช่วยได้เยอะทีเดียว

4. มุ่งมั่นกำจัดหนี้เก่า 
เมื่อรัดเข็มขัดแล้ว หยุดสร้างหนี้แล้ว แถมเปลี่ยนนิสัยใชัจ่ายด้วยในเวลาเดียวกันคุณต้องมุ่งมั่นจำจัดหนี้ก้อนเก่าอย่างตั้งใจจริงด้วย บางคนอาจจะบอกว่าขั้นตอนนี้นี่เองที่ยากที่สุด

มาถึงตรงนี้ ถ้าหนี้ก้อนใหญ่ คุณอาจจะต้องตั้งสติให้มั่น หาวิธีปลดหนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่นถ้าเป็นหนี้นอกระบบเสียเป็นส่วนหญ่ ก็อาจจะต้องหาทางกู้ในระบบออกไปปลดหนี้นอกระบบก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้น้อยลง จากนั้นค่อยมาผ่อนชำระะกับสถาบันการเงิน

5. อย่าปล่อยให้ขึ้นบัญชีดำ
ไม่ว่าคุณจะหนี้มากหนี้น้อย ขอให้รู้ไว้ว่ากฎเหล็กของการเป็นหนี้คือ อย่าปล่อยให้ชื่อของตัวเองหลุดไปโผล่ในบัญชีดำของเครดิตบูโรโดยเด็ดขาด เพราะเท่ากับว่าเครดิตทางการเงินของคุณจะล่มสลายตามไปด้วย

เคยมีตัวอย่างของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ผ่อนชำระเครื่องไฟฟ้ารายเดือนล่าช้า เพราะเห็นว่าเป็นเงินเพียงไม่กี่ร้อยบาท แต่หลังจากนั้นเมื่อเขาจะไปทำธุรกรรมทางการเงินในด้านต่างๆ ก็ล้วนเผชิญปัญหาและติดขัดไปหมด เพราะความที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์นี่เอง

ฉะนั้นหากคุณเป็นหนี้บัตรเครดิตเงินกู้ส่วนบุคคล หรืออะไรก็ตาม ถ้าเริ่มมีปัญหาในการผ่อนชำระ หรือทำท่าว่าจะไปไม่รอด อันดับแรกเลยคุณต้องเข้าไปหารือกับสถาบันการเงินเพื่อบอกเล่าถึงความจำเป็นในการผัดผ่อนของ และความตั้งใจจริงในการชำระหนี้

หากคุณลงมือทำตามบัญญัติ 5 ประการข้างต้น เชื่อเหลือเกินว่าคุณจะปลดเปลื้องพันธนาการแห่งหนี้ได้ในที่สุด 

    Choose :
  • OR
  • To comment