เทคนิคการออมเงิน: วิธีหักห้ามใจเมื่อเจอสิ่งของที่อยากได้
“ยังไม่รวย อยู่อย่างคนรวย ไม่มีวันรวย ยังไม่จน อยู่อย่างคนจน ไม่มีวันจน”
ใคร ๆ ก็ล้วนแต่มีสิ่งที่อยากได้ แม้รู้อยู่เต็มอกว่าไม่จำเป็น แต่ก็มักหาเหตุผลมาซื้อจนได้ ผู้เขียนจึงต้องมีด่าน 18 อรหันต์ให้ความอยากนี้ผ่านก่อน ถ้าแน่จริงก็ผ่านมาสิ ฉันจึงจะควักเงินในกระเป๋าให้แก เจ้าความอยาก
เทคนิคการออมเงิน: วิธีหักห้ามใจที่จะไม่ซื้อของประการแรกนั้นคือ ถ้าอยากได้อะไรก็ให้กลับไปคิดที่บ้านก่อนสัก 1-2 เดือน และถ้ายังคิดว่าต้องการจริง ๆ แล้วละก็ ก็น่าจะซื้อได้ เป็นจิตวิทยาที่ว่าเมื่อเราอยากได้ใหม่ ๆ เราจะรู้สึกว่ายอมจ่ายมาก แต่ถ้าเราไม่ได้ซื้อและกลับไปบ้านแล้ว หากเราไม่อยากได้จริง ๆ ก็จะลืมไปได้เอง
และอีกวิธีที่จะเปลี่ยนความอยากเป็นแรงกระตุ้นก็คือ หากอยากได้อะไรต้องหาเงินเก็บให้ได้อีกเท่าหนึ่ง เช่น อยากได้มือถือราคา 10,000 บาท ก็ต้องหาเงินมาฝากธนาคารประจำให้ได้ 20,000 บท แล้วจึงค่อยถอน 10,000 บาท มาซื้อ วิธีนี้ผู้เขียนเรียกว่า “จ่ายค่านายหน้าให้ตัวเอง” หากตัวเราอยากได้อะไรก็ต้องจ่ายค่านายหน้าเท่ากับของที่จะซื้อ แบบนี้ก็จะช่วยให้เก็บเงินได้ด้วย แถมยังช่วยให้ซื้อของลดลง เพราะดูว่าของนั้นมีราคาแพงขึ้น จากค่านายหน้าที่เราเก็บไว้นั่นเอง
หรือใช้วิธีที่ดุที่สุดของผู้เขียนก็ได้ นั่นคือใช้เฉพาะกำไรซื้อของที่อยากได้ที่ไม่ใช่ของจำเป็น เช่น อยากได้มือถือ 10,000 บาท ก็ต้องลงทุน เช่น รอปันผลของหุ้นมูลค่า 100,000 บาท 1 ปี ได้มา 10,000 บาท จึงค่อยเอา 10,000 บาทไปใช้ วิธีนี้ดีสุด ๆ เพราะต้นทุนยังอยู่ครบ ปีหน้าก็ได้ของอีก ตอนที่จะซื้อบ้านหลังที่อยู่ปัจจุบัน ผู้เขียนวางแผนกับภรรยาว่าแทนที่เราจะซื้อบ้านทันที เราเอาเงินสดจำนวนนี้ไปทำธุรกิจกันก่อน แล้วสักสองสามปีค่อยซื้อบ้าน ทนอยู่บ้านหลังเก่าไปก่อน เมื่อทำธุรกิจได้กำไรก็สามารถนำกำไรมาผ่อนจ่ายบ้านได้ ต่อมาอีก 5 ปี ผู้เขียนก็ได้ธุรกิจที่ทำไรให้ทุกเดือน และบ้านที่สามารถโปะผ่อนหมดได้ด้วยเงินก้อนเดียวกัน เรียกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน หากซื้อบ้านทันที ก็ทำธุรกิจไม่ได้
วิธีมีมากมาย เลือกใช้ได้ตามสะดวกครับ ขอทิ้งท้ายด้วยคำกล่าวที่น่าคิด เวลาอยากจะได้อะไร อีกสักครั้งว่า
“ ยังไม่รวย อยู่อย่างคนรวย ไม่มีวันรวย ยังไม่จน อยู่อย่างคนจน ไม่มีวันจน”
(เครดิตบทความโดย คุณ กรภัทร์ สุทธิดารา)
