เทคนิคการออมเงิน: กำจัดจุดอ่อนทางการเงิน

 

เทคนิคการออมเงิน: กำจัดจุดอ่อนทางการเงิน

            เมื่อมองเห็นถึงรายได้ของตัวเองที่ชัดเจนในแต่ละเดือนแล้ว ก็ถึงเวลาจะมาชวนคนที่อยากสร้างความมั่งคั่งในชีวิต มาเริ่มต้นสำรวจการเงินของตัวเอง ว่ามีจุดไหนบ้างที่จะแปลงมาเป็นรายรับเข้ากระเป๋า และจุดใดบ้างเป็นจุดอ่อนที่ต้องเร่งสร้างความแข็งแรงให้กับเงินในกระเป๋าให้มากขึ้นไปอีก

          รายได้ไม่มั่นคง
            บทนี้คงถูกใจคนที่กำลังจะออกจากงานมาเป็นฟรีแลนซ์ รวมไปถึงคนที่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนแต่สถานภาพทางอาชีพไม่มั่นคง เป็นแค่พนักงานอัตราจ้างที่ต้องจับปากกาเซ็นสัญญากันทุก 6 เดือน หรือเป็นรายปี ฟรีแลนซ์อิสระที่ออกมารับงานด้วยตัวเอง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในผลงานและความสามารถ
            หากตอนนี้คุณรู้สึกว่ารายได้หลักของคุณไม่มั่นคง หรือรายได้จรก็มีบ้างไม่มีบ้าง สัญญาณเรื่องความไม่มั่นคงของรายได้ก็เข้าขั้นน่าเป็นห่วง หรือแม้กระทั่งพนักงานบริษัทเอกชนก็ใช่ว่ามั่นคง เกิดเคราะห์หามยามร้ายขึ้นมาถูกเลิกจ้างก็มีเหมือนกัน จากในช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา หลายบริษัทปรับลดพนักงาน ควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายกันมากขึ้น การเงินการงานของฟรีแลนซ์ก็ซบเซาไปตามสภาพกับเขาเหมือนกัน

            กำจัดจุดอ่อน : ถึงเวลาไล่ล่าหางานประจำที่มั่นคงทำเป็นอันดับแรกเสียแล้วล่ะ เพราะหากวันหนึ่งทำงานแล้วเกิดถูกเลิกจ้างขึ้นมา คุณก็ยังมีโอกาสได้รับเงินชดเชยเอาไว้เป็นทุนสำรองก่อนหางานใหม่
ส่วนคนที่เป็นฟรีแลนซ์นอกจากจะต้องสร้างผลงานให้เป็นที่ติดใจหรือเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง การรู้จักวางแผนการเงิน รู้จักใช้ชีวิตอย่างรอบคอบก็จะเป็นหนทางสร้างความมั่นคงได้ หรือถ้ามีเงินเยอะ ๆ ก็อย่าละทิ้งโอกาสงานที่ติดต่อเข้ามา เพราะกลัวว่าจะทำไม่ทัน

หากคุณคิดจะเป็นฟรีแลนซ์แล้ว ก็ต้องสร้างความมั่นใจให้กับนายจ้างเรื่องการบริหารจัดการงานและเวลา การตรงตามเวลา ถ้างานเยอะมากและมีเพื่อนร่วมอาชีพที่ไว้ใจเรื่องผลงานและมีความรับผิดชอบอยู่ในมือพอสมควรก็เปลี่ยนสภาพตัวเองใหม่ จากากรเป็นคนลงมือทำงานทุกอย่าง ก็เป็นคนกลางคอยรับงานและส่งงานออกไปให้ลูกทีมทำ จากนั้นค่อยเอามาตรวจสอบคุณภาพงานอีกครั้งหนึ่ง หรือจะลองติดต่อกับนายจ้างที่จ้างงานกันมานาน ขอรับงานเป็นฟรีแลนซ์ประจำ โดยการันตีรายได้และจำนวนชิ้นงานที่แน่นอนต่อเดือนแทน

ทำงานได้เงินแต่ไม่มีความสุข
จากประสบการณ์การเป็นพนักงานประจำของตัวเองพบว่า การต้องทำงานหลายอย่างโดยที่ไม่เต็มใจ แต่ต้องทำเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง การทำมาหาเงินจะกลายเป็นเรื่องไม่สนุกเอาซะเลย แม้จะมีรายได้ต่อเดือนมหาศาลแถมไม่คุ้มกับปัญหาสุขภาพและความเครียดที่จะตามมา รวมถึงผลงานที่อกมาคุณภาพก็อาจไม่ดีเทียบเท่ากับงานที่ทำด้วยความเต็มใจและมีความสุข

กำจัดจุดอ่อน : คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งจบมาใหม่ ๆ ทำไมเขามีไฟในการทำงานมากนัก หากได้พูดคุยกับเขาแล้วจะเห็นว่า ส่วนใหญ่ตอบว่าได้ทำงานที่รักโดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องรายได้และปากท้อง เราจึงมักเห็นการทำงานที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่และมีความสุข ดังนั้นสิ่งแรกที่เราควรทำให้ตัวเองทำงานได้อย่างมีความสุข นั่นก็คือการปรับทัศนคติต่องานที่ทำ มองโลกในแง่บวก ทำในสิ่งที่คุณรัก แล้วเงินจะตามมาเอง โดยที่คุณไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเลย

            แต่ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องทำงานที่ไม่ได้ชอบและฝืนความรู้สึกตัวเองอยู่ตลอดเวลา วิธีการจัดการปัญหาง่าย ๆ แทนที่จะคิดลาออกหางานใหม่ ลองคำนวณและวางแผนสร้างรายได้จากงานอดิเรกของคุณดูก่อน เช่นงานอดิเรกคือทำสวน ก็อาจจะวางแผนเปิดร้านขายต้นไม้ และรับจัดสวนเล็ก ๆ ดู แล้วคำนวณดูว่ารายได้เท่ากับงานประจำไหม ถ้ายังต้องทำควบคู่กันนานเท่าไรจึงจะมีเงินมากพอเท่ากับเงินเดือนแต่ละเดือน และต้องใช้เวลาอีกกี่ปี จากนั้นก็เดินตามเป้าหมายที่วางไว้ เมื่อเป็นอย่างที่ต้องการก็สามารถลาออกจากงานประจำที่แสนเบื่อหน่ายได้ ไม่แน่นะ กว่าจะถึงวันที่ลาออก คุณอาจจะเปลี่ยนใจไม่อยากลาออกแล้วก็ได้

รายได้ดีแต่กินเวลาส่วนตัว
เมื่อทำงานประจำไปสักพัก ด้วยธรรมชาติของงานประจำที่ทำอยู่ทำให้หลาย ๆ คนล้วนต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ เรียนจบมาใหม่ ๆ ก็สนุกดีอยู่หรอก มันเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของชีวิต ที่ต้องคอยแก้ไขปัญหาและทำงานให้ตามเวลาที่กำหนด แต่พอทำไปทำมาสักพักร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้าไม่มีความสุข
เพื่อนของผู้เขียนคนหนึ่งทำงานเป็นพนักงานในบริษัทเอกชน บริษัทแห่งนี้มีนโยบายในการทำงานที่เน้นให้พนักงานทำงานให้กับองค์กรมากที่สุด โดยคำนึงว่าพนักงานก็ต้องการเวลาส่วนตัว การลาพักร้อนของเธอไม่เคยเป็นความจริง เพราะการพักร้อนเพื่อพักผ่อนและผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน แต่กลับกลายเป็นว่าเห็นเธอต้องคอยนั่งรับโทรศัพท์เพื่อตอบเรื่องงานตลอด 3 วันที่ไปด้วยกัน ทั้งที่ก่อนลาพักร้อนเธอได้ทำการเคลียร์งานไว้เรียบร้อยแล้ว หรือถ้าโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่อับสัญญาณ เมื่อรับสายก็จะมีการต่อว่าจากปลายสายทันที

การพักร้อนกลายเป็นความร้อนระอุในอารมณ์อยู่ตลอดเวลา วินาทีนั้นเพื่อน ๆ รอบข้างทนไม่ไหวจนต้องบอกกับเธอว่า การทำงานประจำกินเวลาส่วนตัวของชีวิตมากเกินไปแล้ว
ถ้าขืนงานประจำของคุณมีธรรมชาติเหมือนกับงานที่ว่ามา อย่าพูดถึงเรื่องงานเสริมที่อาจจะสร้างรายได้อื่นให้เลยค่ะ เพราะไม่มีทางเป็นไปได้แน่ ๆ ฟันธง แถมการทำงานแบบนี้ในระยาวไม่เป็นผลดีต่อทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจ ทั้งความสัมพันธ์ของคุณกับคนในครอบครัวแน่น ๆ แม้งานประจำจะทำเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าทำแล้วชีวิตไม่มีความสุข มีแต่ความเครียดก็เป็นตัวถ่วง ทำให้คุณภาพชีวิตเราแย่ลงได้

กำจัดจุดอ่อน : ตัดตัวถ่วงทิ้งซะ! วิธีแรกคือเปลี่ยนงาน แต่ก็คงจะยากพอสมควร ส่วนอีกทางหนึ่งคือ ลดเวลาของการทำงานประจำลงอย่างจริงจัง ไม่ให้เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แล้วเอาเวลาที่เหลือไปทำงานอดิเรกหรืองานเสริมที่ช่วยเพิ่มรายได้แทน ถ้าขืนยังทำงานประจำที่กินเวลาส่วนตัวอยู่ต่อไป มันก็จะดึงพลัง ดึงความคิด ความมั่งคั่งที่ควรจะเกิดขึ้นในชีวิตให้เริ่มถอยห่างออกไปทุกที เพราะไม่มีเวลาว่างมากที่จะคิดหรือลงมือทำงานอื่นเลย       
จุดอ่อนที่เล่ามานี้อาจจะเป็นเพียงตัวอย่างที่คนทำงานประจำส่วนใหญ่พบเจอ หากลองสำรวจแล้วพบจุดอ่อนที่เพิ่มมาขึ้น แนะนำให้หาเวลาอยู่กับตัวเอง ค่อย ๆ คิดดูสิว่า จะมีทางออกอย่างไรบ้างกับจุดอ่อนนั้น ๆ
เชื่อแน่ว่า ไม่มีปัญหาใดไม่มีทางออก และทางออกไม่ได้มีเพียงทางเดียว ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกทางเดินไหนต่างหาก

Money Tips : การบริหารจัดการเงินนั้นต้องไม่คิดถึงแต่ความสำเร็จอย่างเดียว ควรเตรียมรับมือกับปัญหาที่จะตามมา เพราะทุกสิ่งในโลกนี้มีสองด้านเสมอ มีหวานก็ต้องมีขม ได้อย่างต้องเสียอย่าง เพราะฉะนั้นควรใช้เวลายินดีกับเงินก้อนใหญ่ที่ได้มาเพียงชั่วครู่ แล้วไม่ลืมที่จะรีบเดินหน้าสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงต่อไป ก่อนที่เงินก้อนใหญ่นั้นจะหมดไปโดยเปล่าประโยชน์

เทคนิคการออมเงิน:

    Choose :
  • OR
  • To comment