กองทุนรวมตลาดเงินและกองทุนรวมตราสารหนี้ คืออะไร และข้อดี ข้อด้อย ของกองทุนรวมตลาดเงินและกองทุนตราสารหนี้ มีอะไรบ้าง
รอจังหวะลงทุน:พักเงินกับกองทุนอะไรดี
ข้อแตกต่าง ระหว่างกองทุนรวมตลาดเงินและกองทุนรวมตราสารหนี้
อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ทิศทางของอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น จากช่วงที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่มีเงินและยังไม่ตัดสินใจที่จะใช้เงินขยายธุรกิจ หรือลงทุนเพิ่ม สามารถพักเงินไว้กับกองทุนรวมเป็นเวลาชั่วคราวก่อนที่จะถอนออกไปลงทุน แต่โดยที่กองทุนรวมมีจำนวนมาก และนโยบายการลงทุนใกล้เคียงกัน ทำให้ผู้ลงทุนบางส่วนตัดสินใจยากโดยเฉพาะกองทุนรวมตลาดเงินและกองทุนรวมตราสารหนี้ ที่ลงทุนในตราสารประเภทเดียวกัน ฉะนั้นต้องทำความรู้จักกับทั้ง 2 กองทุนก่อน
กองทุนรวมตลาดเงิน หรือเรียกว่า Money Market Fund คือ กองทุนที่ระดมเงินออมของทุกท่านไปลงทุนในเงินฝากและตราสารการเงินแต่ละตรา สารต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปี เช่น เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ ตั๋วเงินจากระทรวงการคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ตั๋วเงินจากธนาคารพาณิชย์ หุ้นกู้ระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์และบริษัทเอกชน
กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ กองทุนที่ลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ ซึ่งมีทั้งที่เป็นกองทุนเปิดทั่วๆ ไป หรือเป็นกองทุนเปิดที่มีระยะเวลาในการลงทุนเช่น 6 เดือน 1 ปี หรือ 2-3ปี ก็มี นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีทั้งกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ หรือตราสารหนี้ต่างประเทศ ด้วย
เปรียบเทียบข้อดี ข้อด้อยของกองทุนรวมตลาดเงินและกองทุนตราสารหนี้
กองทุนตลาดเงิน | ข้อดี |
| สภาพคล่องสูงกว่า ถอนวันนี้ พรุ่งนี้เงินโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ |
| ความเสี่ยงต่ำ ความผันผวนของ NAV น้อย และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากออมทรัพย์ |
| ข้อด้อย |
| ไม่ควรลงทุนในระยะที่ยาวเกินไป (เกิน 3 เดือนขึ้นไป) เพราะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่น้อยกว่าการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ |
กองทุนตราสารหนี้ | ข้อดี |
| มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินผ่านธนาคารพาณิชย์ และสูงกว่าการลงทุนตลาดเงินในระยะเวลาที่ยาวกว่า 3 เดือน |
| ข้อด้อย |
| สภาพคล่องน้อยกว่า หากเป็นกองทุนที่มีระยะเวลาการลงทุน เช่น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี หรือ 2-3 ปี ต้องลงทุนไปจนครบอายุการลงทุนจึงจะได้รับเงินคืน |