รู้จักหนี้ให้ดีก่อนก่อหนี้

 

รู้จักหนี้ให้ดีก่อนก่อหนี้

การเข้าใจลักษณะของหนี้จะช่วยทำให้สามารถตัดสินใจเรื่องการใช้เงินเพื่อให้ได้สิ่งของที่ต้องการมาด้วยต้นทุนที่มีเหตุผลและไม่ปวดใจในภายหลัง ดังตัวอย่างต่อไปนี้

สมปองและชาติชายเริ่มทำงานเมื่ออายุ 18 ปี สมมุติว่าเมื่อทำงานไปสักระยะ สมปองเก็บสะสมเงินได้ 30,000 บาท ก็เอาไปซื้อรถเก่ามือสองคันเล็ก ราคา 30,000 บาท ส่วนชาติชายออมเงินได้เท่ากัน แต่เอาไปซื้อรถหรูกว่า ราคา 250,000 บาท โดยกู้เงิน 220,000 บาทจากสถาบันการเงินในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อปี ขอสมมุติอีกว่า เขายอมให้ผ่อนชำระได้เป็นเวลา 5 ปี  ชาติชายผ่อนรถเดือนละ 4,675 บาท เมื่อครบเวลาผ่อน เขาจ่ายเงินไปรวมทั้งสิ้น 280,000 บาท และได้รถคันนั้นมาเป็นสมบัติเมื่ออายุ 23 ปี
ในช่วงห้าปีที่ชาติชายผ่อนรถเดือนละ 4,675 บาทนั้น สมปองก็ใช้เงินจำนวนเท่ากัน คือเดือนละ 4,675 บาท (เขาไม่ซื้อรถราคาสูงและต้องเป็นหนี้ แต่ทนซื้อรถเก่าที่ขับแล้วหน้าไม่บาน ฝากธนาคารโดยได้รับผลตอบแทนในอัตราดอกเบี้ยทบต้นร้อยละ 10 ต่อปี เมื่อครบ 5 ปีเงินที่ลงทุนไปทั้งหมดมีค่า 365,024 บาท  ถ้าสมปองหยุดออมเงินเมื่ออายุ 23 ปี และปล่อยให้เงินก้อนนี้เติบโตต่อไปในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อปี จนเกษียณอายุเมื่ออายุ 58 ปี เขาจะมีเงินรวมทั้งสิ้น 17,897,209 บาท

สำหรับชาติชาย เขาเสียโอกาสที่จะทำให้เงินทำงานรับใช้เขา เนื่องจากต้องเอาเงินออมไปผ่อนรถเป็นเวลา 5 ปี เขาสูญเสียโอกาสที่จะมีเงินออม 365,024 บาท ซึ่งมันจะเติบโตเป็นเงิน 17,897,209 บาทเมื่อตอนอายุ 58 ปี แต่กลับมีรถหนึ่งคัน มูลค่าไม่ถึง 200,000 บาทเมื่อห้าปีผ่านไป และราคาจะลดลงเหลือไม่กี่พันบาทในเวลา 35 ปีต่อมา  หากคิดให้ดีจะเห็นว่ารถของชาติชายเป็นรถที่มีราคาแพงอย่างยิ่ง ถึงแม้ราคาแรกเริ่มของมันจะเพียง 250,000 บาทก็ตาม เขาเลือกที่จะเอาเงินออมไปจ่ายเป็นหนี้เพื่อซื้อรถ จนเสียโอกาสที่จะมีเงินก้อนเกือบ 18 ล้านบาทเมื่ออายุ 58 ปี กล่าวคือ เขาได้รถหรูมาด้วยการเอาเงินเกือบ 18 ล้านบาทไปแลก

ถ้ามีใครไปบอกชาติชายตอนที่เขาจะซื้อรถคันนี้ว่ามันมี “ราคา” แพงถึงเกือบ 18 ล้านบาท เขาคงหัวเราะกลิ้ง แน่นอนครับว่าในโลกจริงมีการจ่ายภาษี มีเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยไม่คงที่และไม่สูงขนาดนั้นมีการใช้จ่ายเงินเพื่อการยังชีพหาความสุข และคงไม่มีใครปล่อยให้เงิน 365,024 บาท งอกเงยขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่ไปแตะต้อง

ข้อเขียนนี้เพียงชี้ให้เห็นข้อแตกต่างของผลพวงที่เกิดจากการเลือกอย่าลืมว่าสำหรับสมปองนั้น เงิน 365,024 บาทเมื่ออายุ 23 ปี งอกเงยขึ้นเป็นเงินเกือบ 18 ล้านบาทเมื่อเขามีอายุ 58 ปี โดยที่เขาไม่ต้องออมอีกเลยแม้แต่บาทเดียวหลังจากอายุ 23 ปี เขาสามารถใช้เงินทั้งหมดที่หามาได้ระหว่างอายุ 23-58 ปีอย่างเต็มที่ และยังมีเงินก้อน 18 ล้านบาทรออยู่เมื่อพ้นวัยทำงาน  ไม่ว่าจะมีเงินเฟ้อเพียงใด ดอกเบี้ยไม่คงที่และลดต่ำเพียงใด เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สมปองก็อยู่ในฐานะที่มั่นคงในชีวิตมากกว่าชาติชายวันยังค่ำ ถ้าหากชาติชายไม่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต หรือเกิดถูกลอตเตอรี่เงินล้านขึ้นมา หรือได้มรกดจากเจ้าคุณปู่เพราะมีปานดำที่โคนขา

หนี้ของชาติชายนั้นเป็นหนี้เพื่อการซื้อรถยนต์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มูลค่ามีแต่เสื่อมลง ส่วนสมปองนั้นเสมือนมีหนี้จากการซื้อทรัพย์สินที่ต้องผ่อนส่งด้วยเงินออมเดือนละ 4,674 บาท และทรัพย์สินนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เพราะได้รับผลตอบแทนในอัตราดอกเบี้ยทบต้นร้อยละ 10 ต่อปี หากจำเป็นต้องก่อหนี้ก็ควรเป็นหนี้เพื่อการซื้อทรัพย์สินที่มูลค่าเพิ่มขึ้นตามวันเวลา หนี้ที่ควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดก็คือหนี้ที่เกิดจากการซื้อของใช้ที่นับวันแต่จะมีมูลค่าลดลง

    Choose :
  • OR
  • To comment