เทคนิคการใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด
บัตรเครดิตไม่ใช่ว่าจะสร้างภาระให้เราเสมอไป เพราะหากมองที่วัตถุประสงค์ดั้งเดิมแล้ว ต้องถือว่าบัตรเครดิตเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะกับคนที่มีรายได้จำกัด ถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประโยชน์อย่างมากทีเดียว นอกจากจะช่วยให้มีความยืดหยุ่นทางการเงินเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังช่วงให้เกิดความสะดวกและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะคุณไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวไปไหนคราวละมาก ๆ แต่อย่างที่บอกไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า การจะทำให้บัตรเครดิตหรือที่เรียกภาษาชาวบ้านว่าเงินพลาสติกเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างแท้จริงแล้วละก็ วินัยในตนเองเป็นสิ่งสำคัญ
เทคนิคปลีกย่อยที่ผมกำลังจะนำเสมอผ่านสายตาคุณนี้ก็เช่นกัน ที่วินัยทางการเงินในตนเองถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการใช้เคล็ดลับเหล่านี้ เพราะหากคุณขาดวินัยแล้วก็ยากที่คุณจะหาประโยชน์กับสิ่งที่คุณกำลังถืออยู่ได้
เคล็ดลับในการใช้บัตรเครดิตข้อที่ 1 “ใช้ระยะปลอดดอกเบี้ย”
การใช้บัตรเครดิตมีหนี้สินเกิดขึ้นก็จริงอยู่ แต่ทว่ายังมีระยะปลอดภัยให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อยู่เหมือนกัน โดยมากบัตรเครดิตจะมีระยะปลอดดอกเบี้ย 40 วัน นับจากวันที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตร นับจากวันที่ใช้จ่ายผ่านบัตรนะครับ ไม่ใช่วันที่คุณได้รับใบชำระหนี้
ถ้าคิดง่าย ๆ เอาแบบปลอดภัยสุด ๆ หลังจากที่คุณได้รับใบแจ้งหนี้ คุณมีเวลาไม่เกิน 10 วัน ถ้าคุณไม่รีรอที่จะเอาเงินเดือนของคุณตัดหนี้บัตรเครดิตให้หมด คุณก็เหมือนกับใช้เงินคนอื่นฟรี ๆ แม้บัตรเครดิตจะมีค่าธรรมเนียมก็ตาม แต่ด้วยการแข่งขันทางการตลาดที่ค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่แล้ว 1-2 ปีแรก มักจะไม่มีค่าธรรมเนียมบางบริษัทให้ถึง 5 ปี
อีกทั้งถ้าเรามีประวัติการชำระเงินที่ดี ลืมเรื่องค่าธรรมเนียมไปได้เลยครับ เพราะบริษัทเจ้าของบัตรจะงดเว้นให้เพื่อตอบแทนความมีวินัยของคุณ ดีไม่ไม่ดีจะอัพเกรดบัตรของคุณให้อีกด้วย เอาเป็นว่าในเรื่องของค่าธรรมเนียมนี้ถ้าบัตรไหนเรียกเก็บเมื่อไหร่ ใช้คะแนนสะสมให้หมดแล้วยกเลิกเจ้านั้นไปได้เลยเพื่อเปลี่ยนไปใช้เจ้าอื่น แต่ส่วนใหญ่ไม่มีหรอกครับ เชยแล้วที่จะมานั่งเสียค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตเว้นเสียแต่ว่าคุณใช้บัตรลูกหรือบัตรเสริม ซึ่งส่วนมากจะมีค่าธรรมเนียม
มาเข้าเรื่องระยะปลอดดอกเบี้ยกันต่อ ในส่วนของระยะปลอดภัยนี้ค่อยข้างกำกวมครับ เมื่อก่อนผมนับเอาจากใบแจ้งหนี้ คือจ่ายไม่เกิด 40 วันหลังจากได้รับใบแจ้งหนี้ แต่ก็มีหลายครั้งที่เกิดดอกเบี้ยในเดือนถัดไป ผมจึงโทร.ไปสอบถาม ปรากฏว่าเขาคิดตั้งแต่วันที่รูดบัตรหลังจากนั้นมา ผมจึงชำระไม่เกินวันที่ 10 ของทุกเดือน เอาปลอดภัยไว้ก่อน ระยะปลอดดอกเบี้ยที่ว่านี้เราได้ประโยชน์อย่างไร ก็เหมือนกับว่าเราสามารถเอาเงินเขามาใช้ได้ฟรี ๆ นั่นเองครับ ข้อนี้เป็นเทคนิคบางส่วนของผม คุณจะเอาไปใช้ก็ได้ไม่ว่ากัน คือผมจะใช้บัตรเครดิตในส่วนของรายจ่ายทั้งหมดที่ผมสามารถชำระด้วยบัตรได้ เพื่อเก็บเงินเดือนของผมเอาไว้ แต่ผมไม่เก็บเอาไว้เฉย ๆ หรอก เพราะมันไม่เกิดประโยชน์
ผมเอาเงินของผมในส่วนนี้ไปออกดอกกับทองคำ โดยการรวมกับเงินออมของผมอีกเล็กน้อย ซื้อทองคำแท่ง 1 บาท เอาไว้เก็งกำไรเล็ก ๆ ครับ คือเงินผมที่มีผมจะซื้อทองคำแท่ง เก็บเงินสดติดตัวเอาไว้ประมาณ 3,000 บาท เพื่อเลี่ยงการกดเงินสดออกมาใช้ ส่วนรายจ่ายอื่น ๆ ผมจะใช้บัตรเครดิตตลอด ได้คะแนนสะสมอีก พอถึงเวลาที่จ่ายหนี้บัตร ผมก็จะขายทองคำแท่งที่ซื้อเอาไว้ แล้วนำเงินที่ขายได้ชำระหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด แล้วก็หาจังหวะดี ๆ นำเงินที่เหลือบวกกับเงินเดือน ซื้อทองคำแท่งมาเก็บไว้อีก ส่วนใหญ่ผมจะได้กำไรหลังจากหักส่วนต่างแล้วประมาณ 500-600 บาทต่อเดือน
มันดูเหมือนว่าจะไม่มากก็จริง แต่นี่คือเงินที่ได้มาฟรี ๆ โดยที่เราไม่ต้องมาเขียม มาอดจนผอมโซ เหมือนกับว่าเงินเดือนของเราเพิ่มมาอีกเดือนละ 500 ไงล่ะครับ ไม่ต้องไปอ้อนเจ้านายให้เมื่อยตุ้ม ซึ่งเทคนิคแบบนี้เราสามารถหาได้หลายวิธี อยู่ที่เราจะพลิกแพลงยังไงนั่นเอง
