ฟังดูเหมือนไม่น่าจะทำได้ แต่ที่ธนาคารหลายแห่งเปิดรับรีไฟแนนซ์สินเชื่อส่วนบุคคล (บัตรเครดิต) หลักในการเลือกรีไฟแนนซ์สินเชื่อประเภทนี้ก็ไม่ต่างจากการรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัย คือเลือกดอกเบี้ยใหม่ให้ต่ำว่าอัตราดอกเบี้ยเดิมมากที่สุด ซึ่งเงื่อนไขในการโอนหนี้บัตรเครดิตของสถาบันการเงินที่รับโอนจะคิดดอกเบี้ยคงที่ มีทั้งคงที่เฉพาะช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือคงที่ตลอดระยะเวลาที่กำลังผ่อนชำระ ส่วนการผ่อนชำระบัตรเครดิตทั่วไปจะเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว
ก่อนโอนหนี้ต้องเป็นสมาชิกบัตรเครดิตที่จะรับโอน ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เหมือนตอนสมัครสมาชิกแรกเข้า ค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ เพิ่มเข้ามา แต่อาจมีส่วนลดที่แต่ละสถาบันการเงินยื่นเสนอมา ควรเลือกที่มอบสิทธิประโยชน์ที่คุ้ม และดีจริงที่สุด ถ้ายังคุลมเครือต้องสอบถามให้ชัดเจน
ส่วนเรื่องของวงเงินหนี้ที่สถาบันการเงินพร้อมรับโอนนั้น แต่ละสถาบันการเงินจะไม่เหมือนกัน โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 แบบ คือ พิจารณาจากรายได้ปัจจุบัน ส่วนใหญ่ไม่เกิน 3-5 เท่าของรายได้ และพิจารณาจากวงเงินสินเชื่อบัตรเครดิตเดิม มักไม่เกิน 70-80% ของวงเงินกู้จากบัตรใบเดิม ส่วนเรื่องการผ่อนชำระ ลูกหนี้ที่คิดจะใช้บริการควรลงลึกว่าถ้ามีเงินที่จะชำระทั้งหมด จะต้องเสียค่าปรับหรือไม่ แลถ้าเกิดสะดุดไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามที่กำหนด ต้องเสียค่าปรับเท่าไร จำไว้ว่าต้องทราบข้อมูลทุกอย่างจนกระทั่งเลิกใช้บัตรแล้ว
ข้อดี ได้อัตราดอกเบี้ยถูกว่า ขยายเวลาชำระเงินเพิ่มขึ้น และการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเป็นสินเชื่อบุคคล จะทำให้ปลดหนี้ได้ดีกว่าหากคุณจ่ายหนี้บัตรเครดิตในจำนวนเงินขั้นต่ำทุกเดือน
ข้อเสีย –อาจมีดอกเบี้ยหมกเม็ดที่แฝงมาในคำเรียกต่าง ๆ เช่น ค่าเบี้ยปรับเมื่อผ่อนชำระล่าช้า ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ซึ่งคือดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ฯลฯ
-ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการขอวงเงินกู้ใหม่
-เสียเวลารอการอนุมัติใหม่
เปรียบเทียบความคุ้มค่า
1.ดูเงื่อนไขว่าคุ้มค่าไหม เช่น การคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกกับการคิดดอกเบี้ยคงที่ของแหล่งเงินกู้ นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขประเภทดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรกเพื่อล่อใจ หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยแบบคงที่
2.เช็กอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้ละเอียด บางแห่งจะคิดดอกเบี้ยตามวงเงินที่ได้รับการอนุมัติ หรือตามอัตราเงินเดือน
3.สามารถโปะเงินเมื่อชำระไปได้สักกี่งวด เผื่อในกรณีที่คุณมีเงินก้อนในภายหลัง จะได้ประหยัดค่าดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น
4.มีสิทธิพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่าสนใจบ้างไหม อย่างเช่น ถ้ากรณีขอเลื่อนชำระฉุกเฉินต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อยกี่วันเพื่อไม่ให้เสียค่าปรับ
ไม่แนะนำการรีไฟแนนซ์รถยนต์ เพราะมีแต่เสียกับเสีย ใครก็ตามที่กำลังจะนำรถใช้แล้วไปขอสินเชื่อใหม่ อาจจะต้องคิดใหม่ ถ้าการขอสินเชื่อครั้งนี้เป็นการรีไฟแนนซ์ เพราะเงื่อนไขในการปิดบัญชีสินเชื่อรถยนต์ก่อนกำหนดนั้น ลูกหนี้ยังคงต้องจ่ายดอกเบี้ยตามสัญญากู้เดิม กับว่าลูกค้าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยซ้ำซ้อน ทั้งดอกเบี้ยที่เกิดจากสัญญากู้ใหม่ และดอกเบี้ยคงเหลือตามสัญญากู้เดิม แถมยังต้องจ่ายเป็นเงินก้อนครั้งเดียวสำหรับดอกเบี้ยงที่เกิดจากสัญญากู้เดิมด้วย
ข้อมูลเหล่านี้คงจะพอเป็นกำลังใจและช่องทางในการใช้หนี้ให้กับคนที่หนี้สินพันตัวอีนุงตุงนังอยู่บ้างนะคะ ขอให้อยู่รอดปลอดภัยและรอดหนี้โดยฉับไว เอาใจช่วยค่ะ
