การออมและการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ

 

วางแผนเกษียณ
การออมและการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ มีหลากหลายวิธีที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ แหล่งเงินออมและการลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ 

          1. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) สำหรับบริษัทที่มีสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) เมื่อเราเริ่มทำงานก็สามารถเริ่มต้นออมเงินสำหรับการเกษียณอายุได้ ซึ่งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) มีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากลูกจ้างมีการใส่เงินสะสมในกองทุน ขณะที่นายจ้างต้องใส่เงินสมทบในปริมาณไม่น้อยกว่าเงินที่ลูกจ้างได้ใส่เงินสะสมไว้นั่นเอง นั่นก็หมายความว่ายิ่งเราใส่เงินสะสมมากเท่าไร นายจ้างยิ่งต้องใส่เงินสมทบมากเท่านั้นหรือมากกว่า ที่สำคัญเงินสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 500,000 บาทต่อปี 

          2. กองทุนประกันสังคม (SSO) มีสิทธิประโยชน์ในส่วนของบำเหน็จและบำนาญชราภาพ โดยในส่วนบำนาญชราภาพ มีเงื่อนไขผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน (15 ปี) โดยกำหนดให้เริ่มนับเดือนแรกคือเดือนธันวาคม 2541 

- สำหรับจำนวนเงินที่จ่ายเป็นเงินบำนาญ คำนวณจากเงินเดือน 60 เดือนสุดท้าย (สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท) มาหารเฉลี่ยคิดเป็นต่อเดือน แล้วคูณด้วยร้อยละ 20 (บวกจำนวนร้อยละที่เพิ่มให้อีกร้อยละ 1.5 ต่อปี ถ้าส่งเงินสมทบมาแล้วเกิน 180 เดือน)
- เงินบำเหน็จชราภาพ แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ หากจ่ายเงินสมทบกรณีชราภาพมาไม่ครบ 12 เดือน จะได้รับเฉพาะส่วนที่ผู้ประกันตนจ่ายร้อยละ 3 ต่อเดือนเท่านั้น หากจ่ายเงินสมทบกรณีชราภาพตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป จะได้รับส่วนของผู้ประกันตน ส่วนของนายจ้าง และผลประโยชน์ตอบแทนประจำปีที่กองทุนประกันสังคมให้ด้วยเช่นเดียวกับดอกเบี้ย


          3. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เหมาะกับผู้ที่ไม่มีสวัสดิการเพื่อการเกษียณใดๆ แต่ต้องการออมสำหรับเกษียณ หรือผู้ที่มีสวัสดิการแล้ว แต่ต้องการออมเพิ่มขึ้นสำหรับเป้าหมายเกษียณในอนาคต สามารถออมในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ได้ ซึ่งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มีเงื่อนไขการลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี และผู้ลงทุนต้องมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ สำหรับเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 3% ของเงินได้ หรือ 5,000 บาท (แล้วแต่จำนวนใดต่ำกว่า) สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ หรือ 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) และประกันชีวิตแบบบำนาญ ซึ่งเงินลงทุนในกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ในปีที่ลงทุน 

          4. ประกันชีวิต เป็นทางเลือกหนึ่งในการออมเงินสำหรับการเกษียณอีกทั้งมีความคุ้มครองควบคู่กับการออม สำหรับประกันชีวิตมี 4 แบบ ดังนี้
- แบบสะสมทรัพย์ เปรียบเสมือนการออมเงิน และความคุ้มครอง เมื่อครบอายุกรมธรรม์ จะได้เงินก้อนคืนตามที่ตกลงกันไว้ เปรียบเสมือนได้เงินบำเหน็จไว้ใช้สำหรับการเกษียณ
- แบบตลอดชีพ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองระยะยาว สำหรับเงินก้อนสุดท้ายสำหรับชีวิต
- แบบชั่วระยะเวลา เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเฉพาะช่วง เช่น ช่วงที่มีภาระหนี้มาก หรือช่วงที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศและได้รับความคุ้มครอง
- แบบบำนาญ เป็นทางเลือกหนึ่ง ที่เราสามารถกำหนดรายได้ที่แน่นอนในอนาคตเมื่อยามเกษียณได้ อีกทั้งรัฐบาลมีการสนับสนุน ทำให้ค่าเบี้ยประกันที่จ่ายสามารถลดหย่อนภาษีได้ 15% ของรายได้ทั้งปี สูงสุดถึง 200,000 บาท แต่เมื่อรวมการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท

    Choose :
  • OR
  • To comment