เทคนิคการออมเงิน: เงินสดคือยาวิเศษ

 

เทคนิคการออมเงิน: เงินสดคือยาวิเศษ

เทคนิคการออมเงิน: เงินสดคือทรัพย์สินที่มีความคล่องตัวมากที่สุด การถือเงินสดไว้ในมือจำนวนหนึ่งเป็นเรื่องที่ควรกระทำ แต่ต้องตระหนักว่า การถือเงินสดนั้นมีต้นทุนอยู่เช่นกัน

เมื่อได้รับเงินในแต่ละเดือนมา ถึงจำไว้ว่าต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นรายได้ของตนเองอย่างแท้จริง ถ้าได้รับเงินมาแล้วใช้ไปทั้งหมด ก็เท่ากับว่าไม่ได้รับรายได้เป็นของตนเองเลย ได้รับแต่อาหารและความสุขจากการบริโภคเท่านั้น รายได้ที่เป็นของตนเองในความหมายนี้คือ “เงินออม”

เทคนิคการออมเงิน: กฎโดยทั่วไปของเงินออมหรือเงินที่กันไว้เป็นรายได้ของตนเองอย่างแท้จริงคือร้อยละ 15-20 ของผลตอบแทนที่ได้รับก่อนหักภาษีเงินได้ในแต่ละเดือน เงินออมนี้อาจอยู่ในรูปของค่าผ่อนบ้าน ซื้อหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ เบี้ยประกัน เงินสมทบกองทุนประกันสังคม เงินสมทบกองทุนบำเหน็จบำนาญ เงินสมทบกองทุนรวม เงินกองทุนการศึกษาบุตร ฯลฯ และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ เงินออมในรูปของเงินสด

การที่ไม่ได้รวมค่าผ่อนรถยนต์ไว้ ถึงแม้จะพอถือได้ว่าเป็นเงินออม ก็เพราะบ่อยครั้งที่เมื่อผ่อนรถยนต์ครบแล้ว มูลค่ารถยนต์จะลดลงไปจนน้อยกว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ทั้งหมด บางคนผ่อนรถยนต์ที่มีราคาเกินฐานะ ซื้อรถยนต์เกินจำนวนที่ควรมีหรือซื้อมา แต่ไม่ได้ใช้ให้สมประโยชน์ ดังนั้นจึงไม่รวมค่าผ่อนรถยนต์ไว้ในรูปของเงินออมด้วย

เมื่อพิจารณาถึงเรื่องความคล่องตัว เงินสดถือได้ว่าคล่องตัวที่สุด รองลงมาคือเงินฝากในรูปของบัญชีออมทรัพย์และบัญชีเช็ค ซึ่งทั้งหมดนี้มีความคล่องตัวมากกว่าการถือทรัพย์สินในรูปของหุ้น บ้าน ที่ดิน รถยนต์ หรือหลักทรัพย์อื่น ๆ นอกจากนี้ การเปลี่ยนทรัพย์สินที่ไม่ใช่เงินสดและไม่ใช่เงินฝากธนาคารมาเป็นเงินสดยังมีต้นทุนที่ต้องจ่าย ทั้งในรูปของค่าธรรมเนียม ค่าโสหุ้ย ค่าเสียเวลา และความไม่สะดวก

เทคนิคการออมเงิน: เนื่องจากเงินสดสามารถนำมาใช้จ่ายในยามฉุกเฉินเมื่อเจ็บป่วย หรือใช้จ่ายเรื่องจำเป็นนานาประเภทได้สะดวก คำถามคือ บุคคลหนึ่งควรมีเงินสดและหรือเงินฝากธนาคารที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้สะดวกทันทีสำรองไว้ใช้จ่ายเป็นจำนวนเท่าใดจึงจะเหมาะสม คำตอบคือ ประมาร 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายปกติประจำเดือน ถ้าแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายปกติประจำเดือนประมาณ 20,000 บาท ก็ควรมีเงินสดอยู่ในมือหรือเงินฝากธนาคารประมาณ 60,000 – 120,000 บาท 

ถึงแม้วเงินสดจะมีประโยชน์ด้านความคล่องตัว แต่ใช่ว่าการถือเงินสดจะไม่มีต้นทุน อย่าลืมว่า การนำเงินมาถือไว้หรือฝากธนาคารโดยได้รับดอกเบี้ยในอัตราต่ำ ทำให้ขาดโอกาสที่เงินเหล่านี้จะทำงานรับใช้ในรูปของการลงทุนในลักษณะอื่น ๆ

เมื่อการถือเงินสดก่อให้เกิดประโยชน์ ขณะเดียวกันก็เกิดต้นทุนในรูปของการเสียโอกาสด้วยแล้ว การตัดสินใจถือเงินสดไว้ในจำวนที่พอเหมาะจึงเป็นเรื่องพึงใคร่ครวญเฉพาะบุคคล

    Choose :
  • OR
  • To comment