ใคร ๆ ก็มักบ่นว่า “กลุ้มใจจัง ตังค์ไม่พอใช้” น่าจะมีวันดี ๆ สักวันหนึ่งให้มีเงินโปรยลงมาจากท้องฟ้า แล้วเราก็ไปเก็บตามสุมทุมพุ่มไม้ ข้างถนน บนหลังคา หรือที่ไหนก็ได้ ที่จะทำให้ได้มีเงิน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด (มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะสิ)
เพราะเงินมันจะงอกเงยขึ้นมาได้ มันก็ต้องมาจากน้ำพักน้ำแรง และมันสมองของเราเองเท่านั้น อย่างนั้นแล้ว เงินที่เราสู้อุตส่าห์หามาได้อย่างลำบากลำบน ทำไมพอถึงเวลาใช้จ่ายจริง ๆ ถึงได้ยอมให้มันอันตรธานหายไปได้ง่าย ๆ ซะอย่างงั้น ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เพราะฉะนั้นลองมานั่งนึกถึงการใช้จ่ายของคุณกันดีไหมว่ามี 7 สัญญาณอันตรายต่อไปนี้บ้างหรือเปล่า ?
1.ได้เงินมาเท่าไหร่ เป็นต้องใช้ให้หมด ไม่อย่างนั้นจะนอนกระสับกระส่าย ข่มตาให้หลับไม่ลงเอาเลย
2. ถูกใจใช่เลย โอ้วพระเจ้า! จอร์จ(ของ) สิ่งนี้เกิดมาเพื่อฉันแท้ ๆ แล้วก็ซื้อมันมานอนกอด นอนชื่นชม แต่เพียงไม่นานก็นึกได้ว่า มันไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรมากไปกว่านี้เลย
3.เจ้าแม่กู้ยืม ยืมเงินคนอื่นไปทั่ว อยากได้เสียอย่างนี่นา ถึงจะไม่มีเงิน ก็ขอยืมคนอื่นก่อน มีเมื่อไหร่จะรีบเอามาคืน
4. มีนิสัยชอบเดินชอบปิ้งเรื่อยเปื่อย ไม่ได้ตั้งใจจะซื้ออะไรเป็นพิเศษ แต่สุดท้ายก็เดินหิ้วของ “พิเศษ” กลับมาเป็นกระตั๊กทุกที
5.ไม่รู้จักเสียเลยกับบัญชีรายรับ-รายจ่าย
6. สะกดคำว่า “ออม” เป็นซะที่ไหน
7. ใช้ชีวิตเพื่อหาความสุขอย่างเดียว โดยคิดว่าสุขวันนี้ให้เต็มที่ เดี๋ยวตายก่อนจะอดใช้ (ก็เลยจ่ายแหลก ว่างั้น)
ซึ่งสัญญาณทั้ง 7 ข้อที่กล่าวมานี้ เป็นตัวบ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่าคุณกำลังเดินเข้าสู่หนทางหายนะทางการเงิน และถ้าหากยังคงพฤติกรรมเหล่านี้ต่อไป จุดจบของคุณก็คงจะไม่น่าดูนัก
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำทั้ง 7 ข้ออันตรายนั่นในเวลาเดียวกัน มันก็ยังไม่ปลอดภัย และสิ่งที่เราอย่างให้คุณรีบทำก่อนสิ่งอื่นใดก็คือ “ตรวจสอบตัวเองได้แล้ว ว่ามีการใช้เงินอย่างไร” พยายามหาข้อผิดพลาดที่ทำให้ “เงิน” คุณหายไป ให้เจอ แล้วจะทำให้คุณคลำทางที่จะอุดการรั่วไหลของเงินได้ง่ายขึ้น ตรวจสอบพฤติกรรมของคุณได้แล้วนะ ก่อนที่จะสายเกินเยียวยา
