ทัศนคติสู่การมั่งมี
มีวินัยในการใช้เงิน รักษาวินัยการใช้เงินให้ดีและสม่ำเสมอในทุกเดือน ลองคิดไว้ว่าจะใช้เงินเพียง 50% ต่อเดือน หรือจะยึดหยุ่นให้มากกว่านี้ก็ได้ โดยแบ่งตามค่าใช้จ่ายที่เคยพูดถึงมาแล้วในบทก่อนหน้า และต้องมีวินัยอย่างเคร่งครัด เงินออมต้องมาเป็นอันดับแรก เงินออมเป็นทั้งกำลังใจและความมั่นคงของเราในอนาคต อย่างน้อยการออมเงินควรออมไม่น้อยกว่า 20% ของเงินเดือน ซึ่งจะแบ่งสันปันส่วนอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนออมด้วย แต่ที่แน่ ๆ ต้องมีเงินออมเพื่อการลงทุนและเงินออมเผื่อใช้ฉุกเฉิน
รู้จักการลงทุน นอกเหนือจากเงินออมแล้วการลงทุนกู้เป็นสิ่งหนึ่งที่มีทั้งความเสี่ยงและกำไรควบคู่กันไป ควรรู้จักการลงทุนหลาย ๆ แบบ เช่น การซื้อกองทุน พันธบัตร ทองคำแห่ง หุ้น รวมทั้งการซื้ออสังหารมิทรัพย์ไว้เก็งกำไร โดยจะต้องศึกษาความเสี่ยงและสถานการณ์ปัจจุบันไว้บ้าง เพราะการเก็บเงินไว้เป็นเงินออมเพียงอย่างเดียว อาจจะทำให้เงินของเราไม่งอกเงย และลดค่าเงินลงไปเรื่อย ๆ
ไม่สร้างหนี้เพิ่ม ใครมีหนี้รีบจ่ายให้หมด และลดการสร้างหนี้ใหม่ ถ้าบัตรเครดิตมีโปรโมชั่นเยอะ และเกิดอยากได้ของแถมหรือส่วนลดก็ให้ใช้บัตรเครดิต แต่ต้องหักเงินสดส่วนหนึ่งเก็บไว้จ่ายเมื่อถึงรอบบิลเรียนเก็บมา อย่าเผลอรูดทุกอย่างที่อยากได้ เพราะไม่อย่างนั้นแทนที่จะมีคุณ กลับจะได้โทษเป็นหนี้ก้อนโตไปนั่งเล่นนอนเล่นใช้หนี้เปล่า ๆ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ไม่ว่าจะมีอาชีพอะไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคนต้องการรายได้มากขึ้น ก่อนอื่นเลยต้องย้อนกลับไปดูว่าช่วงที่ผ่านมารายได้ครอบคลุมรายจ่ายหรือไม่ หากคำตอบคือไม่ สิ่งที่จะต้องทำต่อไปก็คือควรจะหารายได้เพิ่ม พร้อม ๆ กับตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป
เลิกนิสัยจับจ่าย โดยเฉพาะช่วงสิ้นปีที่มีเงินก้อนจากโบนัส คนที่มีเป้าหมายปฏิวัติการเงิน ไม่ควรใช้เงินก้อนนี้เพื่อฉลองหรือหมดไปกับการจับจ่าย แต่ควรเอามาจัดสรรเพื่อให้แผนการปฏิวัติลุล่วงไปด้วยดี เช่น ชำระหนี้สิน แบ่งไปลงทุน ฯลฯ นอกจานี้แล้วต้องงดการจับจ่ายใช้สอยในส่วนที่เกินความจำเป็น
เลิกนิสัยซื้อของตามคนอื่น เช่น เวลาเห็นเพื่อนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดังก็อยากจะได้บ้าง แต่ไม่มีเงินมากพอก็ยังไปซื้อของเลียนแบบที่คุณภาพใกล้เคียงของจริงที่สุดมาใช้อีก สินค้าเหล่านี้แม้ราคาจะถูกกว่า แต่ก็ยังค่อนข้างแพงเกินความจำเป็นอยู่ดี หากเลิกพฤติกรรมชอบซื้อของตามคนอื่นแบบนี้ไม่ได้ กล้าฟันธงเลยว่าคุณจะมีแต่จ่ายกับจ่าย เงินทองรั่วไหลไม่เหลือเก็บแน่ ๆ
รายได้ต่ำ รสนิยมสูง อันนี้สำคัญสำหรับสาวอินเทรนด์ทั้งหลายที่เกาะติดแฟชั่นหรือแบรนด์เนมดัง ๆ อยู่ตลอดเวลา เลิกเสียทีเถอะ รสนิยมและค่านิยมผิด ๆ เหล่านี้ เพราะต่อให้มีเงินเดือนมากเท่าไรก็ไม่พอใช้อยู่ดีแล้วเมื่อไรจะมั่งคั่งเสียที หันมาใช้ของดี มีคุณภาพและราคาเหมาะสมกับกระเป๋าสตางค์เราดีกว่าค่ะ
ไม่ยาก ถ้าอยากรวย
เมื่อเราปรับพฤติกรรมการใช้เงินกันแล้ว ขั้นตอนต่อไปของการปฏิวัติการเงินสู่ความมั่งคั่งก็คือ การวางแผนการเงิน เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะบอกให้รู้ว่าเดือนหนึ่งเราใช้จ่ายเงินกับอะไรไปบ้าง และมีลู่ทางพอที่จะเก็บเงินเพิ่มได้อีกหรือไม่