เทคนิคการออมเงิน: วิธีจัดการกับหนี้สิน
เมื่อก่อนคนที่เป็นหนี้เป็นสินมักจะถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่มีเงินและก็ถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่ได้เรื่อง เป็นคนที่ไม่มีความสามารถเอาเสียเลย ซึ่งผิดกับเดี๋ยวนี้มาก เพราะเดี๋ยวนี้เมื่อกล่าวถึงเรื่องหนี้สินคงต้องพูดว่า ส่วนใหญ่ทุกคนเป็นหนี้สินด้วยกันทั้งนั้น
ดังนั้นคนที่เป็นหนี้จึงไม่ใช่คนที่ไม่เก่งและไม่ได้เรื่องอีกต่อไป เป็นคนได้เรื่อง แต่นั่นต้องหมายความว่า คุณต้องบริหารหนี้สินที่มีอยู่ให้เป็น ไม่ใช่สัก ๆ แต่ว่าก่อหนี้ขึ้นมาก แต่ไม่รู้ว่าจะเอาเงินจากไหนมาใช้หนี้ เมื่อถึงเวลาใช้หนี้ก็ไปกู้ทางนั้นมาโปะทางนี้ กู้ทางนี้ไปโปะทางนั้น เช่นนี้ก็หายนะ แน่นอน กลายเป็นหนี้พอกหางหมู เมื่อถึงเวลาที่คุณกู้ที่ไหนไม่ได้อีกก็เป็นเรื่อง
แล้วเราจะต้องบริหารหนี้สินอย่างไร ในทุกวันนี้อาจกล่าวได้ว่าเรื่องหนี้สินกลายเป็นเรื่องปรกติธรรมดา เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้เหมือน ๆ กัน แต่ต่างกันตรงที่เหตุผลในการเป็นหนี้องแต่ละคน ต้องบอกว่าคนที่ไม่เป็นหนี้สิแปลกและหาได้ยาก เพราะส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของเครดิต ตลอดจนความหน้าเชื่อถือของและบุคคล
คำว่าหนี้สินจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อก่อน และไม่ใช่ว่าเมื่อเป็นหนี้สินแล้วจะเกิดปัญหา แต่มันขึ้นอยู่กับว่าจะมีวิธีการบริหารหนี้สินอย่างไร ส่วนนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าหนี้สินที่เกิดขึ้นจะเป็นปัญหาหรือว่าไม่เป็นปัญหา
เพราะผู้ที่มีความสามารถในการบริหารหนี้สินที่ดี แม้จะมีหนี้เป็นสิบ ๆ ล้าน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรสำหรับเขา และก็ไม่มีใครเรียกว่าเป็นคนหนี้สินล้นพ้นตัว แต่ในขณะที่บางคนมีหนี้สินไม่กี่หมื่นบาทแต่กลับชักหน้าไม่ถึงหลัง นั่นก็เป็นเพราะว่าไม่รู้จักวิธีจัดการหนี้สินอย่างเป็นระบบ
อย่างไรก็ตามเราก็สามารถเป็นเศรษฐีได้ไม่ยาก หากมีคามสามารถในการบริหารหนี้สินที่ดี รู้จักวิธีการบริหารหนี้อย่างเป็นระบบ และมีวินัยในตนเองมากพอ เพราะจะสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้โดยที่ไม่ต้องมีทุนเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ อีกทั้งช่วยให้ขยับขยายกิจการได้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาสะสมเงินทุน ทำให้ประสบกความสำเร็จในชีวิตได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
